ถิรพร สิงห์ลอ
เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา รัฐสภาเดนมาร์กยอมรับหลักการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของประเทศที่ร้อยละ 70 ภายในปี 2030 อันหมายรวมถึงแผนสร้าง ‘ศูนย์รวมพลังงาน’ แห่งแรกของโลกบนเกาะบอร์นโฮล์ม (Bornholm) ในทะเลบอลติกและทะเลเหนือ จนเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ เดนมาร์กมีความทะเยอทะยานไปไกลกว่านั้น โดยได้อนุมัติแผนสร้าง ‘เกาะเทียม’ (artificial island) บริเวณทะเลเหนือ ทำหน้าที่ผลิตพลังงานลมที่แตกต่างไปจากทุ่งกังหันลมแบบดั้งเดิม ด้วยการเชื่อมต่อทุ่งกังหันลมผลิตพลังงาน (Wind energy farm) จากประเทศอื่น ในเบื้องต้นจะเป็นแหล่งผลิตพลังงาน 3 กิกะวัตต์ (gigawatts – GW) จ่ายแจกให้ครัวเรือนอย่างน้อย 3 ล้านครัวเรือน และต่อไปอาจเป็น 10 GW ซึ่งเพียงพอสำหรับ 10 ล้านครัวเรือน มากกว่าที่ประชากรเดนมาร์กที่ 5.8 ล้านคน
DANISH ENERGY AGENCY
การก่อสร้างครั้งนี้ จะเป็นการก่อสร้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเดนมาร์ก โดยรัฐบาลเป็นเจ้าของ ร่วมพัฒนากับภาคเอกชน โดยจะมีการนำกระบวนการอิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) มาผลิตพลังงานหมุนเวียน อาทิ เพื่อการขนส่งทางทะเล และประมาณว่าจะมีกังหันลมผลิตไฟฟ้า (wind turbines) ประมาณ 200-600 unit ซึ่งยอดกังหันลมสูง 260 เมตรจากระดับน้ำทะเล เดนมาร์กมองว่าโครงการขนาดใหญ่นี้ไม่ใช่เพื่อเดนมาร์กเพียงเท่านั้น เพราะสามารถผลิตพลังงานได้มากและทำให้อาจมีส่วนต่างที่เหลือ ดังนั้น เดนมาร์กจะส่งออกไปยังส่วนอื่นของทวีปเพื่อชาวยุโรปด้วย ขณะเดียวกัน ได้หวังให้โครงการดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจสำหรับประเทศอื่นที่ต้องการจะเปลี่ยนผ่านประเทศ เผชิญรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ดี เดนมาร์กจะมีการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment) พร้อมหารือกับนักลงทุน โดยคาดว่าสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2026 (พ.ศ. 2569) และโครงการน่าจะเสร็จสิ้นระหว่างปี 2030 – 2033 (พ.ศ. 2573 – 2576)
‘SDGs เป้าหมายที่ 7 ว่าด้วยเรื่องพลังงานสมัยใหม่ การเข้าถึงพลังงานราคาถูกและยั่งยืนได้ทุกคน และเป้าหมายที่ 13 ว่าด้วยเรื่องขีดความสามารถ ภูมิต้านทาน และการลงมือทำอย่างเร่งด่วนเพื่อจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ’
แหล่งที่มา:
https://www.aljazeera.com/news/2021/2/6/denmark-moves-forward-on-north-sea-energy-island
#SDGWatch #ihpp #SDG7 #SDG13
