บริษัทข้ามชาติที่มีมูลค่าการผลิตไฟฟ้าสูงสุดอันดับ 1 ของโลก* และเป็นแนวหน้าด้านพลังงานหมุนเวียนอย่าง Enel Green Power **จากอิตาลี ร่วมมือกับบริษัทนานาชาติด้านเทคโนโลยีพลังงาน 40 บริษัท อาทิ Smartenergy จากสวิตเซอร์แลนด์ Sunfire จากเยอรมัน และเครือ ETRA ริเริ่มโครงการ ‘ORANGE.BAT’ นำ ‘ไฮโดรเจนสีเขียว’ (green hydrogen) ในฐานะพลังงานสะอาดแห่งอนาคต เข้ามาช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมผลิตกระเบื้องเซรามิกในแคว้นบาเลนเซีย (Valencia) ทางภาคตะวันออกของสเปนที่ผลิตเซรามิกมากถึง 95% ที่มีในสเปนและปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 1 ใน 3 ของภูมิภาค โดยมีรัฐบาลท้องถิ่นของแคว้นและธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กด้านเซรามิกในสเปนเองร่วมด้วย
เรียกได้ว่า โครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการรณรงค์ ‘การเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน’ (energy transition) ด้วยการใช้ ‘ไฮโดรเจน’ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงานที่เป็นตัวการปล่อยก๊าซดังกล่าวมากถึง 90% ให้น้อยลงจนกระทั่งเป็นศูนย์ (decarbonization) และคาดว่าการใช้ไฮโดรเจนนั้นจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 75,800 เมตริกตันต่อปี และถือเป็นครั้งแรกสำหรับวงการกระเบื้องเซรามิคด้วย ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจาก Green Deal Call ของสหภาพยุโรปพร้อมกับดำเนินการเตรียมพร้อมตามแผนเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้เริ่มลงมือภายในปี 2567 (2024) ทันที
ส่วนจุดสำคัญอย่างการนำไฮโดรเจนมาใช้นั้น แม้ว่ามันจะมีอยู่มากตามธรรมชาติ แต่มักอยู่ในรูปที่ติดกับโมเลกุลอื่นที่ไม่สามารถนำมาใช้งานได้เลย ดังนั้น การได้มาซึ่งไฮโดรเจนสีเขียวจึงต้องใช้เครื่อง Electrolyzer แยก ‘น้ำ’ ออกเป็นออกซิเจนและไฮโดรเจนด้วยไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์หรือกังหันลม ในแง่นี้ มันจึงเป็นกระบวนการผลิตสีเขียวที่สามารถหมุนเวียนกลับมาแยกเป็นไฮโดรเจนได้อีกครั้ง โดยที่ไม่ก่อมลพิษหรือมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
และบริษัทเทคโนโลยีด้านพลังงานเหล่านี้จะแสดงบทบาทสำคัญในแง่ของการสนับสนุนองค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิตตัวเครื่อง Electrolyzer ที่ 100-MW นั่นเอง
นอกจากนี้ ออกซิเจนที่ได้จากกระบวนการข้างต้นก็ไม่ได้ทิ้งไปเฉย ๆ แต่จะถูกนำมาใช้ในเตาอบเซรามิค โดยความร้อนที่ได้จะถูกควบคุมให้นำไปใช้ต่อในที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรมต่อไป ทำให้ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นการตอกย้ำกระบวนการ ‘เศรษฐกิจหมุนเวียน’ (circular economy) ในอีกทางหนึ่ง
* ตามข้อมูลจาก power-technology.com ส่วนแหล่งข้อมูลสถิติอื่นในช่วงปี 2563 ต่างจัดอันดับอยู่ระหว่างที่ 1-2
** Enel Green Power ผลิตพลังงานจากพลังงานน้ำ-ลม-แสงอาทิตย์-พลังงานความร้อนใต้พื้นพิภพ-พลังงานชีวมวล โดยมีโรงงานผลิตไฟฟ้าถึง 1,200 แห่ง กระจายอยู่ใน 28 ประเทศใน 5 ทวีป (ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลางและใต้ แอฟริกา โอเชเนีย และเอเชีย)
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ #SDG7 (7.2) เพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนของการใช้พลังงานในโลก (7.3) ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของโลก (7.a) ยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศในการวิจัยและลงทุนในเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เพื่อลงมือจัดการกับ #SDG13 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และยังเป็นการดำเนินการที่สนับสนุน#SDG8 (8.3) สนับสนุนกิจกรรมที่มีผลิตภาพ การเติบโตของวิสาหกิจรายย่อยขนาดเล็กและกลาง และ (8.4) ประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรของโลกในการผลิต
ผู้อ่านที่สนใจพลังงานจากไฮโดรเจน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่:
Water Electrolysis เทคโนโลยีผลิตก๊าซไฮโดรเจนที่สะอาดและยั่งยืน
Hydrogen Energy พลังงานแห่งอนาคต?
แหล่งที่มา:
https://www.evwind.es/2021/04/02/orange-bat-green-hydrogen-for-sustainable-ceramics/80208
https://fuelcellsworks.com/news/100mw-green-hydrogen-project-to-decarbonise-value-chain-of-major-european-ceramic-cluster/