สาขา DHL Supply Chain ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ระดับโลก ประจำประเทศไทย อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ หรือ Zero Carbon Emissions ภายในปี 2050 โดยมีการลงทุนเป็นเงิน 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (36 ล้านบาท) สำหรับแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน และพัฒนา “นวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ตลอดการดำเนินงาน
DHL ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 11,000 ตร.ม. หรือประมาณ 3 สนามฟุตบอล บนหลังจากของคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า 4 อาคาร ในโครงการ DHL Bangna Logistic Campus สมุทรปราการ
คาดว่าแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งจะให้พลังงานเพียงพอสำหรับ 38% ของความต้องการพลังงานที่ใช้ในพื้นที่โครงการทั้งหมด และลดการใช้พลังงานลง 20% ในแต่ละปี นอกจากการใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์แล้ว DHL ยังได้ติดตั้งไฟ LED พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวซึ่งจะเปิดใช้งานในพื้นที่ทำงานที่กำหนดไว้เท่านั้น รวมถึงเสาไฟพลังงานแสงอาทิตย์ และระบบการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ
DHL ยังคงดำเนินงานการขนส่งที่ยั่งยืนเพราะถือเป็นจุดหลักของการลดรอยเท้าคาร์บอน (carbon footprint) โดยสามารถลดรอยเท้าคาร์บอนจากการขนส่งลง 6% ในปี 2020 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ด้วยโซลูชั่นที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทีมซัพพลายเชนในประเทศไทยใช้เทคโนโลยีหลังคาแสงอาทิตย์จากสหราชอาณาจักรเพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้รถขนส่ง 36 คันในบริษัท และยังใช้ระบบ telemetics ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวางเส้นทางการเดินรถและช่วยประหยัดการใช้เชื้อเพลิง นอกจากนั้น รถบรรทุกทั้งหมดของบริษัท ยังใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นสร้างมลพิษน้อยกว่า เช่น เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel)
ความพยายามในการลดการปล่อยคาร์บอน ด้วยการใช้พลังงานสะอาดอยู่ใน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
- SDG 13 ต่อสู้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในประเด็น การลกก๊าซเรือนกระจก (13.2)
- SDG 7 การเข้าถึงพลังงานสะอาด ในประเด็น การเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน (Renewable Energy)
ที่มา: PayloadAsia