ตามคำอธิบายข้างต้นในรูป ความไม่เท่าเทียมนอกจากเรื่อง เศรษฐกิจ (การกระจายปัจจัยหรือทรัพยากรทางเศรษฐกิจให้ถึงปัจเจกบุคคลและกลุ่มบุคคล/ชุมชนของประชากรของประเทศ และระหว่างประเทศอย่างเท่าเทียม) ยังเป็นเรื่องของ การเข้าถึงโอกาส อาทิ โอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ โอกาสการได้ทำงานที่มีคุณค่า โอกาสที่จะได้รับการรักษาที่จำเป็นยามป่วยไข้ โอกาสที่จะได้รับโภชนาการที่ดี และสิทธิที่จะมีส่วนร่วมและตัดสินใจด้วยอำนาจทางการเมือง เหล่านี้ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ของความเท่าเทียม (equality of outcomes) ของสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีในชีวิต หรือสภาพทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียม โดยเผยออกมาเป็นระดับรายได้ ระดับการได้รับการศึกษา และสุขภาพของร่างกายและจิตใจ เป็นต้น กล่าวในอีกแง่หนึ่ง การเข้าถึงโอกาสเป็น ‘จุดตั้งต้น’ สู่ ‘ผลลัพธ์’ ของการทำให้ผู้คนมีความเท่าเทียมและเสมอภาคในทุกมิติ (เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง) และทุกพื้นที่
นอกจากนี้ ข้อสังเกตอีกประการของความไม่เท่าเทียมก็คือ ประเด็นปัญหาและความท้าทายในปัจจุบันของโลกเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน ทั้งในระดับภายในประเทศและระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความยากจน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอพยพโยกย้ายถิ่นฐาน และวิกฤติทางเศรษฐกิจ
โดยแม้ว่าจะเป็นประเทศที่ร่ำรวยแล้ว ประเด็นความเหลื่อมล้ำและไม่เท่าเทียมก็ยังมีให้พบเห็นระหว่างกลุ่มคนที่ร่ำรวยและกลุ่มชุมชนที่อยู่ในความยากจน และแม้แต่ประเทศที่ดำรงอยู่ด้วยระบอบประชาธิปไตยมาอย่างยาวนานก็ยังจะต้องต่อสู้กับการเหยียดเชื้อชาติ (racism) การเกลียดคนรักเพศเดียวกัน (Homophobia) และการเกลียดกลัวคนข้ามเพศ (transphobia) โดยเฉพาะด้วยการบ่มเพาะ ‘ความอดทนอดกลั้นต่อความแตกต่าง’ (tolerance) ซึ่งรวมถึงความแตกต่างของความเชื่อทางศาสนาและชาติพันธุ์
อย่างไรก็ดี มากกว่า 70% ของประชากรโลกยังประสบกับความไม่เท่าเทียม ซึ่งนอกจากจะเป็นอุปสรรคต่องานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจวบจนการขับเคลื่อนเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน อาทิ ความพยายามยุติความยากจนในทุกรูปแบบในทุกที่ (#SDG1) การยุติความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหาร (#SDG2) สุขภาพและสุขภาวะที่ดี (#SDG3) การศึกษาที่มีคุณภาพ เสมอภาค และครอบคลุม การเรียนรู้ตลอดชีวิต (#SDG4) ความเท่าเทียมระหว่างเพศ การเพิ่มพลังเสริมอำนาจแก้ผู้หญิงและเด็กผู้หญิง (#SDG5) ตามข้อมูลของรายงาน A Guide to Inequality and the SDGs ของคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก ความไม่เท่าเทียมยังเป็นบ่อนทำลายความตระหนักถึงคุณค่าของตัวปัจเจกบุคคล ซึ่งในทางหนึ่ง ยังเป็นการเพาะเลี้ยงอาชญากรรม โรคภัย และความเสื่อมโทรมทางสิ่งแวดล้อม
ซึ่งทำให้เห็นว่า เราจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้เลย หากเราละเลยและทิ้งบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดบนฐานของความแตกต่างนั้นเอาไว้ข้างหลัง
ข้อมูลจาก UN ได้ระบุตัวอย่างของความไม่เท่าเทียมเอาไว้ ดังนี้
- เด็กที่ยากจนที่สุด 20% ของประชากรในประเทศกำลังพัฒนา มีความเป็นไปได้ที่จะเสียชีวิตก่อนอายุ 5 ปี มากกว่าเด็กในกลุ่มที่ร่ำรวยถึง 3 เท่า
- แม้ว่าการเสียชีวิตของมารดาในภาพรวมของประเทศกำลังพัฒนาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่มารดาในพื้นที่ชนบทมีความเสี่ยงจะเสียชีวิตมากกว่ามารดาในเขตเมืองถึง 3 เท่า
- การคุ้มครองทางสังคมมีเพิ่มขึ้นมาก แต่ผู้พิการยังมีรายจ่ายทางสุขภาพที่สูงกว่าคนอื่นถึง 5 เท่า
- กว่า 30% ของความไม่เท่าเทียมทางรายได้ เป็นความไม่เท่าเทียม/ความเหลื่อมล้ำระหว่างครัวเรือน และระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย โดยผู้หญิงมักจะมีรายได้ต่ำกว่าผู้ชาย
- ผู้สูงอายุ ผู้อพยพโยกย้ายถิ่นฐานและผู้ลี้ภัย ขาดโอกาสและถูกเลือกปฏิบัติ และย่อมกระทบกับประเทศทุกประเทศ
- 1 ใน 5 หรือ 2 ใน 10 คน ถูกเลือกปฏิบัติอย่างน้อยจากเหตุที่ถูกห้ามไม่ให้ทำตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
- ในประชากรโลกผู้พิการ 1 พันล้านคน 80% อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา
ทั้งนี้ การเดินหน้าสร้างความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำลงนั้นเป็นไปได้ และประการแรกนั้นต้องทำให้มั่นใจว่า ‘ความแตกต่าง’ ทางเพศ เพศวิถี (sexual orientation) อายุ ความพิการ ชนชั้นทางสังคม ชาติพันธุ์ ศาสนา วัฒนธรรม ปูมิหลังครอบครัว ฯลฯ ต้องไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางการเข้าถึงโอกาส หรือเข้ามาเป็นตัวชี้ชะตามาตรฐานความเป็นอยู่ของคน โดยที่จะต้องมีนโยบายและกฎหมายที่ขจัดการเลือกปฏิบัติและสนับสนุนโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสเหล่านั้นได้อย่างเสมอภาค พร้อมกับการที่ผู้คนต้องปฏิบัติต่อกันอย่างไม่เลือกปฏิบัติด้วย ขณะเดียวกัน นโยบายและกฎหมายนั้นจะต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษกับความต้องการของกลุ่มชุมชนที่มักถูกเบียดขับเป็นชายขอบและมักไม่ได้รับประโยชน์หรือหลุดหล่นไปจากนโยบาย (disadvantaged and marginalized groups)
นอกจากนั้น จะต้องใช้ความพยายามแก้ไขตั้งแต่ฐานราก ตั้งแต่การขจัดความยากจนขั้นรุนแรง ความหิวโหย และลงทุนกับการสาธารณสุข การศึกษา การคุ้มครองทางสังคม และการสร้างงานที่มีคุณค่า โดยเฉพาะสำหรับเยาวชน ผู้อพยพโยกย้ายถิ่นฐาน ผู้ลี้ภัย และกลุ่มผู้เปราะบาง
โดยสำหรับ ภายในประเทศ จะต้องมุ่งเน้นที่
- การลดความไม่เท่าเทียม/ความเหลื่อมล้ำทาง ‘รายได้’ – ตรงกับเป้าประสงค์ที่ 10.1 ส่งเสริมการเติบโตของรายได้ในกลุ่มประชากรร้อยละ 40 ที่ยากจนที่สุดอย่างต่อเนื่องในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ ภายในปี 2573
- การเพิ่มพลังอำนาจและเสริมพลัง (empowerment) และหลักประกันให้ทุกคนมี ‘โอกาสที่เท่าเทียม’ ในการเข้าถึงสิทธิทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม – ตรงกับเป้าประสงค์ที่ 10.2 ให้อำนาจและส่งเสริมความครอบคลุมด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองสำหรับทุกคน โดยไม่คำนึงถึงอายุ เพศ ความบกพร่องทางร่างกาย เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ แหล่งกำเนิด ศาสนา หรือสถานะทางเศรษฐกิจหรืออื่น ๆ ภายในปี 2573
- การขจัดนโยบาย กฎหมาย และการปฏิบัติที่เป็นการเลือกปฏิบัติ (discrimination) – ตรงกับเป้าประสงค์ที่ 10.3 สร้างหลักประกันว่าทุกคนจะมีโอกาสที่เท่าเทียมและลดความไม่เสมอภาค รวมถึงโดยการขจัดกฎหมายนโยบาย และการเลือกปฏิบัติ และส่งเสริมการออกกฎหมาย นโยบาย และการกระทำที่เหมาะสมในเรื่องนี้
- การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมที่ครอบคลุมทุกคน – ตรงกับเป้าประสงค์ที่ 10.4 เลือกใช้นโยบาย โดยเฉพาะนโยบายการคลัง ค่าจ้างและการคุ้มครองทางสังคม และให้บรรลุความเสมอภาคยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และสำหรับ ระหว่างประเทศ จะต้องมุ่งเน้นที่
- หลักประกันว่าประเทศกำลังพัฒนาจะได้แสดงความคิดเห็นและเสียงของประเทศเหล่านี้มีส่วนร่วมตัดสินใจในประเด็นระดับโลก เพื่อ ‘ทางออกจากปัญหา’ ที่มีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือ และรับผิดรับชอบสำหรับทุกประเทศ – ตรงกับเป้าประสงค์ที่ 10.6 สร้างหลักประกันว่าจะมีตัวแทนและเสียงสำหรับประเทศกำลังพัฒนาในการตัดสินใจของสถาบันทางเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สถาบันมีประสิทธิผล เชื่อถือได้ มีความรับผิดรับชอบ และชอบธรรมมากขึ้น
- เรื่องทางการเงินและความช่วยเหลือทางการเงินหรือรูปแบบอื่น ระหว่างประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา – ตรงกับเป้าประสงค์ที่ 10.5 พัฒนากฎระเบียบและการติดตามตรวจสอบตลาดเงินและสถาบันการเงินของโลก และเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินการกฎระเบียบดังกล่าว , 10.a ดำเนินการตามหลักการการปฏิบัติที่เป็นพิเศษและแตกต่างสำหรับประเทศกำลังพัฒนา เฉพาะอย่างยิ่งประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โดยเป็นไปตามความตกลงองค์การการค้าโลก , 10.b สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการและการไหลของเงิน ซึ่งรวมถึงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ไปยังรัฐที่มีความจำเป็นมากที่สุด เฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนาน้อยที่สุด ประเทศในแอฟริกา รัฐกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็ก และประเทศกำลังพัฒนาที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล โดยให้เป็นไปตามแผนและแผนงานของประเทศเหล่านั้น
- รัฐบาลและผู้มีส่วนได้เสียอื่นส่งเสริมการอำนวยความสะดวกในการอพยพและเคลื่อนย้ายถิ่นฐานของคนให้เป็นไปด้วยความสงบ ปลอดภัย เป็นไปตามระเบียบ และมีความรับผิดชอบ รวมถึงผ่านทางการดำเนินงานตามนโยบายด้านการอพยพที่มีการวางแผนและจัดการที่ดี ทั้งนี้ ด้วยเพราะมีประชากรโลกหลายล้านคนที่ต้องจากบ้านด้วยเหตุจากสงคราม การเลือกปฏิบัติ ความยากจน หรือไร้ซึ่งโอกาสในชีวิต เพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า — ตรงกับเป้าประสงค์ที่ 10.7
- ตลอดจนการแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าและการเข้ามาเป็นแรงงานของผู้อพยพโยกย้ายถิ่นฐานนั้นจะต้องได้รับการสนับสนุนลดค่าธรรมเนียมส่งเงินกลับบ้าน (remittances) ด้วย — ตรงกับเป้าประสงค์ที่ 10.c ลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมของการส่งเงินกลับประเทศของผู้อพยพ (migrant remittances) ให้ต่ำกว่าร้อยละ 3 และขจัดการชำระเงินระหว่างประเทศ (remittance corridors) ที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าร้อยละ 5 ภายในปี 2573
สุดท้ายนี้ สำหรับประเทศไทย การขจัดความเหลื่อมล้ำ (โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำทางรายได้และที่ดินทำกิน) ซึ่งรวมถึงการสร้างความเป็นธรรมทางสังคม การกระจายศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคม การสร้างงานและอาชีพโดยเฉพาะส่งเสริมความสามารถของชุมชน เป็นหนึ่งประเด็นสำคัญใต้ร่มยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ด้านที่ 4 การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม
คำว่า Inequality ปรากฏใน ‘#SDG10 ลดความเหลื่อมล้ำทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ’
Goal 10 Reduce inequality within and among countries
SDG Vocab รู้จักคำศัพท์ รู้จัก SDGs
หมายเหตุ – คำอธิบายข้างต้นสรุปโดยทีมงาน เพื่อให้อ่านแล้วทำความเข้าใจง่ายเท่านั้น
ไม่แนะนำให้นำไปอ้างอิงในเชิงวิชาการ
แหล่งที่มา :
https://www.un.org/sustainabledevelopment/inequality/
https://www.un.org/en/development/desa/policy/wess/wess_dev_issues/dsp_policy_01.pdf