Miami-Dade เป็นเขตพื้นที่ในสหรัฐอเมริกาที่เผชิญความเสี่ยงจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมากมาเป็นเวลานาน เพราะตั้งอยู่ในที่แนวโน้มเกิดน้ำท่วมและพายุบ่อยครั้งทางตอนใต้ของ Florida และเพื่อรับมือภัยคุกคามทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นโดยเฉพาะ ผู้นำของเทศมณฑลจึงกำหนดตำแหน่ง ‘เจ้าหน้าที่ด้านความร้อน’ หรือ ‘Heat Officers’ เป็นที่แรกในโลก
ที่มา : CNBC
Jane Gilbert ได้รับแต่งตั้งให้เป็น Chief Heat Officer ประจำ Miami-Dade เมื่อเมษายน 2021 โดยนายกเทศมณฑล Daniella Levine Cava กล่าวเมื่อมีการประกาศตำแหน่งใหม่นี้ว่า “ในขณะที่ผลกระทบที่เกิดจากความร้อนเพิ่มมากขึ้น ก็ยังเกิดพายุเฮอริเคน น้ำท่วม และระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงผสมโรงอีกด้วย” บทบาทของ Gilbert คือ “ช่วยขยาย เร่ง และประสานความพยายามของเราในการปกป้องและช่วยชีวิตผู้คนจากผลกระทบความร้อนที่เพิ่มขึ้น”
“แนวคิดของตำแหน่งนี้ คือ การมีคนที่ตื่นนอนทุกวันเพื่อนึกถึงความเสี่ยงจากความร้อนที่จะเกิดขึ้น”
ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความร้อนมากที่สุด คือ กลุ่มคนที่มีความเปราะบาง งานในตำแหน่งใหม่นี้ของ Gilbert ที่เริ่มดำเนินการไปแล้ว เช่น การตั้งเป้าหมายใหม่ที่จะเพิ่มต้นไม้ที่ให้ร่มเงาในพื้นที่ให้ได้ถึง 30% จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้แค่ 20% และเน้นไปที่พื้นที่ที่มีสภาวะเป็น ‘เกาะความร้อนในเมือง’ (urban heat island) นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงระเบียบของเทศมณฑลสำหรับการทำ ทางเท้าและหลังคาสีเขียวที่จะช่วยลดอุณหภูมิในเมืองลงด้วย
Gilbert เคยทำงานในตำแหน่ง Chief Resilience Officer ในพื้นที่นี้มาก่อนถึงสี่ปี ความรับผิดชอบหลักคือการพัฒนาความสามารถของเมืองในการจัดการให้รอดผ่านภัยพิบัติและสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เช่น การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และในบรรดาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดการทำงานเธอพบว่าผู้คนในชุมชนมีความกังวลต่อ ‘ความร้อนที่เพิ่มขึ้น’ กันอย่างกว้างขวาง
ความร้อนที่เพิ่มขึ้นเป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องทำงานนอกบ้าน เช่น คนงานก่อสร้างและเกษตรกรรม คนทำสวน และพนักงานในสวนสาธารณะ นอกจากนี้ ความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นยังเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุและผู้พิการเป็นพิเศษอีกด้วย จากข้อมูลของสถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (National Institute of Environmental Health Sciences: NIEHS) เผยว่า การเผชิญอากาศร้อนจัดอาจทำให้เกิดอาการเพลียจากความร้อน โรคลมแดด และการเสียชีวิต ความร้อนสูงยังสามารถ “ทำให้ภาวะเรื้อรังที่มีอยู่ก่อน เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ สมอง และหลอดเลือดหัวใจต่าง ๆ รุนแรงขึ้น” และข้อมูลจาก Urban Climate Lab ประจำ Georgia Institute of Technology ระบุอีกว่า “ความร้อนคร่าชีวิตผู้คนมากกว่าการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศอื่น ๆ รวมกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับความสนใจในระดับเดียวกันก็ตาม”
การกำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ในเมืองเพื่อจัดการผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความร้อนที่สูงขึ้นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ Extreme Heat Resilience Alliance (EHRA) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง Adrienne Arsht-Rockefeller Foundation Resilience Center และพันธมิตรระดับโลกอีกกว่า 30 องค์กร ที่เปิดตัวเมื่อสิงหาคม 2020 เพื่อจัดการกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากอากาศร้อนจัดในเมืองต่อกลุ่มคนที่มีความเปราะบางทั่วโลก ทำให้อีกหลายเมืองวางแผนที่จะกำหนดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ที่จะจัดการเรื่องความร้อนในเมืองอีกเช่นกัน อาทิ ในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และเมืองฟรีทาวน์ในประเทศเซียร์ราลีโอน
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน พบว่า ความร้อนจัดคร่าชีวิตผู้คนราว 12,000 คนในสหรัฐอเมริกาในแต่ละปีระหว่างปี 2010 – 2020 ซึ่งมากกว่าการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศสุดขั้วอื่นๆ และยังมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2100 จะมีจำนวนผู้เสียชีวิตเนื่องจากความร้อนในสหรัฐฯ สูงถึง 97,000 รายต่อปี การแต่งตั้งตำแหน่งใหม่ของ Gilbert นั้นเป็นตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นว่าผลกระทบจากความร้อนที่สูงขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป และการดำเนินการเชิงรุกเพื่อรับมือเป็นเรื่องจำเป็น
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ #SDG13 ต่อสู้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (13.1) เสริมภูมิต้านทานและขีดความสามารถในการปรับตัวต่ออันตรายและภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับภูมิอากาศในทุกประเทศ และ (13.2) บูรณาการมาตรการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในนโยบาย ยุทธศาสตร์ และการวางแผนระดับชาติ
ที่มา :
New city ‘heat officers’ take aim at climate change’s ‘silent killer’ (World Economic Forum)
Miami’s first-ever chief heat officer on the climate issues that scare her the most—and what gives her hope (CNBC)
City Heat is Worse if You’re Not Rich or White. The World’s First Heat Officer Wants to Change That (TIME)
