นักวิจัยศึกษาข้อมูลการเกิดการชนกันระหว่างรถยนต์และสัตว์ เพื่อคาดการณ์ว่าพื้นที่ไหนและเวลาใดที่สัตว์จะข้ามถนน และเสนอการเพิ่มข้อมูลความเสี่ยงนี้ลงในแอปพลิเคชันนำทางหรือแผนที่ดิจิทัลเพื่อป้องกันการชนที่จะเป็นอันตรายทั้งต่อสัตว์และผู้ขับขี่
จำนวนสัตว์ถูกรถชนตายในภูมิภาคยุโรปแต่ละปีเป็นตัวเลขที่สูงมาก โดยเป็นนกมากถึงประมาณ 194 ล้านตัวและเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมากถึง 29 ล้านตัว นอกจากจะลดประชากรสัตว์แล้วยังอาจเป็นอันตรายกับผู้ขับขี่มากขึ้นเมื่อเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ การชนสัตว์จำนวนมากเป็นเพราะการตัดถนนทำให้เกิดการทำลายและแบ่งแยกพื้นที่อยู่ตามธรรมชาติของสัตว์ อันตรายจึงเกิดขึ้นเมื่อสัตว์พยายามเดินทางข้ามถนน โดยเฉพาะในประเทศขนาดเล็ก ที่มีพื้นที่ถนนและมีการใช้รถยนต์จำนวนมาก เช่น เดนมาร์ก
การป้องกันการชนสัตว์ตายในงานวิจัยอื่น ๆ ใช้วิธีการหาจุดความเสี่ยง (hotspot) ในพื้นที่ที่สัตว์มีแนวโน้มข้ามถนนมากที่สุด แล้วสร้างรั้วกั้นไม่ให้สัตว์ลงถนน หรือสร้างสะพานหรืออุโมงค์เพื่อให้สัตว์ใช้ผ่านถนนอย่างปลอดภัย โดยมาตรการนี้ช่วยลดการชนสัตว์ตายและยังให้สัตว์สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ แต่ก็เป็นมาตรการที่ใช้งบประมาณสูงมากและอาจไม่ได้เหมาะกับพื้นที่ที่มีประชากรอยู่อาศัยหนาแน่นและมีถนนจำนวนมาก ตัวเลือกในพื้นที่เหล่านั้นจึงมีเพียงการล้อมรั้ว และเมื่อไม่มีการทำทางเดินสำหรับสัตว์จึงทำให้สัตว์ไม่สามารถย้ายถิ่นหรือเดินทางมาผสมพันธุ์กันได้
การศึกษาการชนกันระหว่างรถยนต์ 85,000 คัน กับกวางสามสายพันธุ์ได้แก่ กวางโร (Roe) กวางแฟลโลว์ (Fallow) และกวางแดง ที่เกิดขึ้นในเดนมาร์กเป็นเวลากว่า 17 ปี ได้ข้อค้นพบที่สำคัญคือ ทั้งสถานที่และเวลาที่เกิดการชนกันนั้นสามารถคาดเดาได้และมีความคล้ายคลึงกันอย่างมากในสายพันธุ์ต่าง ๆ ของกวาง และการชนกันส่วนมากเกิดขึ้นในช่วงพลบค่ำและช่วงรุ่งสาง ในช่วงเวลาที่มีการจราจรคับคั่งในระดับปานกลาง และในพื้นที่ที่มีป่าปกคลุมมากขึ้น
ข้อค้นพบเหล่านี้จะมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อถูกป้อนลงในแผนที่ดิจิทัลและระบบนำทางด้วยดาวเทียมเพื่อสร้างระบบเตือนให้ผู้ขับขี่แบบทันทีเมื่อขับผ่านพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ในช่วงเวลาของวันที่สัตว์จำนวนมากเคลื่อนไหว โดยผู้ขับขี่จะได้ยินเสียงหรือสัญญาณกระพริบเตือนเมื่อมีโอกาสเกิดการชนสัตว์
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถรายงานการชนกัน เพื่อเติมข้อมูลให้แอปพลิเคชันมีความแม่นยำมากขึ้น ระบบการรายงานดังกล่าวมีการใช้งานแล้วในบางประเทศ เช่น สวีเดน แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ระบุเฉพาะสถานที่เท่านั้น แต่ไม่ครอบคลุมถึงเวลาที่เกิดการชนสัตว์ตาย
แม้ว่าระบบการแจ้งเตือนอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าการล้อมรั้วตลอดถนนและการสร้างทางเดินสำหรับสัตว์ป่าโดยเฉพาะ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่มีต้นทุนถูกกว่า แม้ว่าจะช่วยลดการชนสัตว์ตายบนถนนได้เพียง 10% แต่ก็ยังช่วยรักษาความปลอดภัยของชีวิตผู้คนและสัตว์หลายหมื่นชีวิตในยุโรปในแต่ละปี
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ #SDG3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี - (3.6) ลดจำนวนการตายและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจากการจราจรทางถนนทั่วโลก #SDG11 เมืองและการตั้งถิ่นฐานที่ยั่งยืน - (11.2) ระบบคมนาคมขนส่งที่ยั่งยืน เข้าถึงได้ ปลอดภัย ในราคาที่สามารถจ่ายได้ พัฒนาความปลอดภัยทางถนน #SDG15 ระบบนิเวศบนบก ป่าไม้ และความหลากหลายทางชีวภาพ - (15.4) การอนุรักษ์ระบบนิเวศภูเขาและความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศ