กระทรวงการคลัง กำลังเตรียมขึ้นภาษสรรพสามิตอาหารที่มีโซเดียมสูงและอาหารแปรรูป เพื่อสนับสนุนนโยบายด้านสาธารณสุขของรัฐบาลที่มุ่งหวังให้คนไทยลดการบริโภคเกลือโซเดียม เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าภาษีดังกล่าวจะกระตุ้นให้ผู้ผลิตอาหารแปรรูปที่มีความเค็ม ลดปริมาณโซเดียมในผลิตภัณฑ์ลง หรือหาสารทดแทนที่ปลอดภัยกว่า ดังเช่น การพัฒนาสูตรอาหารที่ใช้สารแทนความหวานแทน เมื่อรัฐมีการเก็บภาษีน้ำตาลจากผู้ผลิต
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่า คนไทยบริโภคโซเดียมมากกว่า 3,600 มิลลิกรัมต่อคนต่อวัน ซึ่งสูงกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกที่ไม่เกิน 2,000 มก. ต่อวัน การบริโภคโซเดียมสูงเป็นสาเหตุให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหลายโรค เช่นโรคไตวายเรื้อรัง และทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น และความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญสำหรับการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง เป็นต้น
การบังคับใช้การเก็บภาษีโซเดียมของกระทรวงการคลังมีเป้าหมายลดปริมาณการบริโภคโซเดียมของคนไทยลง 20% ควบคุมให้เหลือไม่เกิน 2,800 มก. ต่อคนต่อวันให้ได้ภายในแปดปี ในปัจจุบัน กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตความเค็มตามปริมาณโซเดียม และจะดำเนินมาตรการดังกล่าวในช่วงเวลาที่เหมาะสมร่วมกับมาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษีด้วย แต่จะมีการประกาศการบังคับใช้มาตรการภาษีโซเดียมล่วงหน้าหกเดือนถึงหนึ่งปีเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมได้มีเวลาเตรียม โดยตั้งเป้าไปที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง ขนมขบเคี้ยว และซอสปรุงรส
ประเด็นดังกล่าว เกี่ยวข้องกับ
#SDG3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
- (3.4) ลดการตายก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อให้ลดลงหนึ่งในสามผ่านทางการป้องกันและการรักษาโรค และสนับสนุนสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีภายในปีพ.ศ. 2573
ที่มา :
Excise tax on salty foods proposed (Bangkok Post)
คลังเตรียมเก็บภาษีความเค็ม พบคนไทยบริโภคเกลือสูงกว่าปริมาณที่องค์การอนามัยโลกกำหนดถึง 2 เท่า (Workpoint Today)