- อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ มีแผนเดินทางไปยังประเทศตุรกี ต่อด้วยประเทศรัสเซีย และประเทศยูเครนตามลำดับ
- จุดประสงค์ในการเดินทางครั้งนี้เพื่อเจรจาหารือด้านการสันติภาพและขยายความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมร่วมกับผู้นำประเทศรัสเซียและยูเครน
- มีการประมาณว่ามีประชากรยูเครนมากกว่าประมาณเจ็ดล้านคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ พวกเขาเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
. . .
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ จะเดินทางไปยังประเทศตุรกี ในวันจันทร์ที่ 25 เมษายนนี้ ก่อนที่จะเดินทางไปยังประเทศรัสเซียในวันอังคาร ที่ 26 เมษายน และประเทศยูเครนในวันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายนต่อไปตามลำดับ เพื่อเจรจาหารือด้านสันติภาพและมนุษยธรรมร่วมกับประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐยูเครน
โดย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส จะเดินทางไปถึงกรุงอังการา เมืองหลวงของประเทศตุรกีโดยการต้อนรับจากประธานาธิบดี เรเจป ตอยยิป เออร์โดกัน ร่วมกับ มาร์ติน กริฟฟิทส์ รองเลขาธิการสหประชาชาติ ฝ่ายกิจการเพื่อมนุษยธรรมและผู้ประสานงานการบรรเทาทุกข์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Under-Secretary-General for Humanitarian Affairs and Emergency Relief Coordinator) ทั้งนี้ จะมีการร่วมหารือเกี่ยวกับการจัดการเจรจาหารือด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนในอนาคต
โดยเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา กริฟฟิทส์ได้กล่าวในสำนักงานใหญ่สหประชาชาติว่า ประเทศตุรกีนั้นมีความเหมาะสมในการจัดการพูดคุยหารือด้านมนุษยธรรมดังกล่าว สำนักข่าว Daily Sabah ของประเทศตุรกีได้กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ประเทศตุรกีเป็นหนึ่งในบรรดาประเทศสำคัญที่ทำงานขับเคลื่อนเพื่อสนับสนุนการสงบศึกระหว่างประเทศรัสเซียและประเทศยูเครน ด้วยการวางตัวเป็นกลางของประเทศตุรกีอย่างเป็นมิตร และการเปิดช่องทางการเจรจาหารือสำหรับสองประเทศนี้จะมีส่วนช่วยให้สงครามถึงจุดจบโดยเร็ว อันโตนิโอ กูเตอร์เรส จึงมีแผนที่จะเดินทางไปพบนายวลาดิมีร์ ปูติน ในวันอังคารนี้ และร่วมพูดคุยหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ นายเซร์เกย์ ลาฟรอฟ และในวันพฤหัสบดีนี้จะเข้าพบนายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ และร่วมพูดคุยหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ นายดมิโตร กูเลบา โดยการร่วมพูดคุยหารือกับทั้งสองประเทศในครั้งนี้เพื่อมุ่งหวังในการสร้างสันติภาพ และเพิ่มระดับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในประเทศยูเครน
กริฟฟิทส์ ยังได้รายงานว่าสหประชาชาติมีแผนที่ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในอีกไม่กี่วันนี้ไปยังภูมิภาคโดเนสก์ตะวันออก ซึ่งเป็นเขตที่ประเทศรัสเซียได้ให้การรับรองเอกราช จากนั้นจะถูกส่งไปยังพื้นที่ลูฮันสก์ต่อไป
คณะกรรมการกู้ภัยนานาชาติ (International Rescue Committee: IRC) รายงานว่าการบุกประเทศยูเครนในครั้งนี้นับเป็นการบุกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1945 มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายพันราย มีการประมาณว่ามีประชากรยูเครนมากกว่าประมาณเจ็ดล้านคนต้องกลายเป็น ‘ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ’ (internally displaced) พวกเขาเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
“การหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมระหว่างกองกำลังทหารประเทศยูเครนและประเทศรัสเซียแม้ยังไม่หยุดลงในเวลานี้ แต่เป็นไปได้กว่าจะเกิดขึ้นในไม่กี่อาทิตย์นี้” กล่าวโดย มาร์ติน กริฟฟิทส์
อ่านเพิ่มเติม
– SDG Updates | ‘สันติภาพ’ แบบไหน ที่จะนำสังคมและเศรษฐกิจให้ฟื้นกลับจากโรคระบาดโควิด-19 ได้อย่างยั่งยืน
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG10 ลดความไม่เสมอภาคภายในและระหว่างประเทศ
– (10.7) อำนวยความสะดวกในการอพยพและเคลื่อนย้ายคนให้เป็นไปด้วยความสงบ ปลอดภัยเป็นไปตามระเบียบ และมีความรับผิดชอบ รวมถึงให้การดำเนินงานเป็นไปตามนโยบายด้านการอพยพที่มีการวางแผนและการจัดการที่ดี
#SDG16 ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง
– (16.1) ลดความรุนแรงทุกรูปแบบและอัตราการตายที่เกี่ยวข้องในทุกแห่งให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
– (16.a) เสริมความแข็งแกร่งของสถาบันระดับชาติที่เกี่ยวข้อง โดยรวมถึงการกระทำผ่านทางความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อสร้างขีดความสามารถในทุกระดับ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อจะป้องกันความรุนแรงและต่อสู้กับการก่อการร้ายและอาชญากรรม
#SDG17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ที่มา
– U.N. chief Guterres heading to Turkey ahead of Moscow, Kyiv visits (Reuters)
– No Ukraine humanitarian ceasefires soon, possibly in coming weeks -U.N. aid chief (Reuters)
– UN chief Guterres to visit Ankara ahead of Moscow, Kyiv trips (Daily Sabah)
ผลงานนี้ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ภายใต้โครงการเร่งรัดการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพของประเทศไทย