ความพยายามในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อเร่งแก้ไขวิกฤติสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นสำคัญที่ในหลาย ๆ ประเทศพยายามหาแนวทางในการจัดการ ในประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันดับต้น ๆ อย่างสหรัฐอเมริกาก็เช่นกัน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาล Biden-Harris ได้ประกาศแผนการปรับปรุงรถโรงเรียนในประเทศ จากเดิมที่เป็นยานพาหนะที่มีเครื่องยนต์แบบใช้น้ำมัน เปลี่ยนเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (electric bus) ที่ปลอดมลพิษ ซึ่งจะใช้เงินลงทุนรอบแรกมูลค่าสูงถึงกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.7 แสนล้านบาท) เพื่อแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และปกป้องสุขภาพประชาชนจากมลพิษทางอากาศ
จากงานวิจัย Children’s Exposure to Diesel Exhaust on School Buses ในสหรัฐอเมริกาของหน่วยงาน Environment & Human Health Inc. พบว่า ระดับความเข้มข้นของมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองอนุภาคเล็ก (PM2.5) บนรถโรงเรียนสูงกว่าพื้นที่โดยรอบ 5 ถึง 10 เท่า ซึ่งในสหรัฐอเมริกา มีรถโรงเรียนมากกว่า 480,000 คัน ที่ใช้พลังงานจากน้ำมัน และร้อยละ 95 ยังเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า มลพิษทางอากาศจากควันน้ำมันดีเซลนั้นจัดเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง และมีเด็กนักเรียนในสหรัฐฯ กว่า 25 ล้านคนที่ใช้บริการรถโรงเรียนเพื่อนั่งรถไปกลับมากถึง 180 ชั่วโมงต่อปีการศึกษา (เฉลี่ย 1 ชั่วโมง/วัน) จำเป็นต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศที่จะส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมไปถึงคนขับ และชุมชนที่รถโรงเรียนผ่านด้วย
ภาคการขนส่งของสหรัฐอเมริกา มีสัดส่วนปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในประเทศ การลงทุนเปลี่ยนรถโรงเรียนเป็นรถไฟฟ้าในครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานฉบับใหม่ (Bipartisan Infrastructure Law) เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานในทุกด้านของสหรัฐอเมริกา มีสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency: EPA) เป็นผู้จัดสรรประโยชน์ในการจัดการเปลี่ยนรถโรงเรียนให้สถานศึกษาที่มีความต้องการที่มากกว่าก่อน รวมไปถึงโรงเรียนของชนพื้นเมืองและในชุมชนด้อยโอกาส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่ม ‘Justice40’ ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่ตั้งเป้าหมายแบ่งสัดส่วน 40% ของงบประมาณลงทุนของรัฐไปยังพื้นที่ด้อยโอกาส เพื่อการพัฒนาด้านพลังงานสะอาดและจะให้เงินอุดหนุนเพื่อการขยายการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานสำหรับชาร์จยานพาหนะไฟฟ้าในพื้นที่ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ตัวเลือกการขนส่งที่สะอาดกว่ามากขึ้น
“นี่เป็นการลงทุนครั้งประวัติศาสตร์ภายใต้กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในการพลิกโฉมขบวนรถโรงเรียนทั่วสหรัฐอเมริกาไปตลอดกาล”
Michael S. Regan ผู้บริหารสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม
แผนการลงทุนเปลี่ยนรถโรงเรียนเป็นรถไฟฟ้าทั่วสหรัฐฯ เพื่อทดแทนและลดปัญหาการปล่อยมลพิษที่เกิดจากรถโดยสารรุ่นเก่าในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะสร้างประโยชน์ในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปกป้องสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเด็ก ๆ หลายล้านคนทั้งในรุ่นนี้และในอนาคต แต่ยังช่วยกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีในประเทศ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าที่จะมาแทนที่รถโรงเรียนแบบเก่านี้ จะผลิตขึ้นในสหรัฐฯ ทั้งหมด
● อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
– รายงาน ‘ลดคาร์บอนเป็นศูนย์’ จากภาคการขนส่งในเอเชีย ชี้หลักสำคัญ 6 ข้อ สู่พลังงานสะอาดในอนาคต – SDG Move
– สหราชอาณาจักรลงทุนขนานใหญ่เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานคาร์บอนต่ำรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า
– SDG Updates | บทวิเคราะห์ความท้าทายและนโยบาย เพื่อเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรมภายใต้รัฐบาล โจ ไบเดน (EP.8)
– สารตะกั่วในน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับรถยนต์เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ยังคงตกค้างอยู่ในอากาศกรุงลอนดอนจนถึงปัจจุบัน
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
– (3.9) ลดจำนวนการตายและการเจ็บป่วยจากสารเคมีอันตรายและจากมลพิษและการปนเปื้อนทางอากาศ น้ำ และดิน ให้ลดลงอย่างมาก ภายในปี 2573
#SDG7 พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้
– (7.1) สร้างหลักประกันว่ามีการเข้าถึงการบริการพลังงานสมัยใหม่ที่เชื่อถือได้ ในราคาที่สามารถซื้อหาได้ ภายในปี 2573
– (7.b) ขยายโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการจัดส่งบริการพลังงานสมัยใหม่และยั่งยืนให้โดยถ้วนหน้าในประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศพัฒนาน้อยที่สุด และรัฐกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็ก ที่สอดคล้องกับโครงการสนับสนุนของประเทศเหล่านั้น ภายในปี 2573
#SDG9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม
– (9.1) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ ยั่งยืนและมีความแข็งแรง ซึ่งรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาคและพื้นที่เขตแดน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ โดยมุ่งเป้าให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมในราคาที่สามารถจ่ายได้
– (9.4) ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและปรับปรุงอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและการใช้เทคโนโลยีและกระบวนการทางอุตสาหกรรมที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยทุกประเทศดำเนินการตามขีดความสามารถของแต่ละประเทศ ภายในปี 2573
#SDG11 เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน
– (11.6) ลดผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อมต่อหัวประชากรในเขตเมือง รวมถึงการให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการจัดการคุณภาพอากาศ การจัดการของเสียของเทศบาล และการจัดการของเสียอื่นๆ ภายในปี 2573
#SDG13 รับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
– (13.2) บูรณาการมาตรการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในนโยบาย ยุทธศาสตร์ และการวางแผนระดับชาติ
แหล่งที่มา:
– The US Releases $500 Million to Make School Buses Electric
– Dangerous Air Pollutants Continue To Rise In Indian & UK Cities, New Study Finds
– Children’s Exposure to Diesel Exhaust on School Buses
ผลงานนี้ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ภายใต้โครงการเร่งรัดการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพของประเทศไทย