แรงงานกว่าครึ่งล้านใน ‘สหราชอาณาจักร’ นัดหยุดงานครั้งใหญ่ เพื่อเรียกร้องขึ้นค่าตอบแทน

ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึง มีนาคม  2566 นี้ แรงงานสหราชอาณาจักรกว่าครึ่งล้านคน จากสหภาพแรงงานในหลายภาคส่วน วางแผนสร้างปรากฏการณ์นัดหยุดงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ เพื่อเรียกร้องค่าตอบแทน สัญญาจ้าง และสภาพการทำงานที่เป็นธรรม ซึ่งผู้ร่วมประท้วงนัดหยุดงานครั้งนี้มีตั้งแต่บุคลากรทางการแพทย์ พนักงานเดินรถไฟ อาจารย์และพนักงานสถาบันอุดมศึกษาและการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมไปจนถึงข้าราชการพลเรือน ครูสอบใบขับขี่ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง หลังสหภาพแรงงานได้พยายามแสดงออกเคลื่อนไหวมาตลอดหลายปี

การออกมาเรียกร้องปรับค่าตอบแทนครั้งนี้ของแรงงานในสหราชอาณาจักร เป็นช่วงเดียวกับที่สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับวิกฤติค่าครองชีพครั้งใหญ่ อันเนื่องมาจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในรอบ 40 ปี และเมื่อเทียบกับภาคเอกชน ภาครัฐได้รับผลกระทบที่หนักกว่ามาก โดยช่วงในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 พบว่าแรงงานภาครัฐมีการเติบโตของรายได้เพียง ร้อยละ 4.2 ขณะที่แรงงานของภาคเอกชนอยู่ที่ ร้อยละ 7.3 ซึ่งแม้ทั้ง 2 ภาคส่วนจะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อไม่ต่างกัน แต่ความสามารถในการปรับเพิ่มค่าตอบแทนภายใต้รัฐบาลของพรรคอนุรักษ์นิยมนั้น เป็นไปได้ยากกว่าเนื่องจากรัฐบาล ไม่ให้มีการปรับเพิ่มค่าตอบแทนและพยายามออกกฎหมายให้แรงงานในอุตสาหกรรมพื้นฐานนัดหยุดงานประท้วงยากขึ้นด้วย 

ขณะที่ การเติบโตของรายได้ในภาคเอกชนฟื้นตัวดีขึ้น หลังสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย สมาคมวิชาชีพเพื่อบุคลากรและการพัฒนา (Chartered Institute of Personnel and Development : CIPD) คาดการณ์แนวโน้มว่าหลังจากนี้ลูกจ้างของภาคเอกชนจะรายได้ปรับตัวขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5  ส่วนภาครัฐจะปรับตัวขึ้นเฉลี่ยเพียงร้อยละ 2 เท่านั้น แนวโน้มดังกล่าวทำให้เกิดช่องว่างรายได้ระหว่างภาครัฐและเอกชน จึงทำให้กลุ่มลูกจ้างของภาครัฐเกิดความไม่พอใจและนำมาสู่การประท้วงนัดหยุดงาน

อาชีพที่เข้าร่วมการนัดหยุดงานเพื่อเรียกร้องค่าตอบแทนที่เป็นธรรม อาทิ

  • บุคลากรการแพทย์ บริการสุขภาพแห่งชาติ (National Health Service: NHS) หรือ ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าของสหราชอาณาจักร ต้องเผชิญกับปัญหากำลังคนที่ไม่เพียงพอ ปริมาณงานล้นมือ ค่าตอบแทนน้อย และระยะเวลาในการรอพบแพทย์นานส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ป่วย มาตั้งแต่ช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณอย่างเพียงพอ ทำให้ทั้งเเพทย์ พยาบาล หน่วยรถพยาบาล หน่วยปฐมพยาบาล และเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ที่เข้าร่วมสหภาพแรงงานหลายกลุ่ม ได้เข้าร่วมการนัดหยุดงานหรือวอล์คเอาท์ทั่วสหราชอาณาจักรและในบางภูมิภาค
  • สหภาพแรงงานรถไฟ สหภาพแรงงานรถไฟ การเดินเรือ และการขนส่งแห่งชาติ (Railway Maritime and Transport Workers: RMT) ที่ผ่านมา ประสบปัญหากับการที่อุตสาหกรรมคมนาคมพยายามอุดช่องโหว่รายได้ ที่หายไปในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ของบริษัท Network Rail ทำให้มีการลดตำแหน่งงานลงกว่า 1,900 ตำแหน่ง ซึ่งระบุว่าใช้วิธีการให้พนักงานลาออกเองโดยสมัครใจ แต่ RMT ประกาศจุดยืนว่าจะไม่ยอมให้มีการยกเลิกตำแหน่งงานที่จำเป็นโดยเด็ดขาด
  • อาจารย์และพนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานและอาจารย์กว่า 7 หมื่นคนของมหาวิทยาลัย 150 แห่งทั่วสหราชอาณาจักร นัดหยุดงานรวมเวลาเกือบ 3 สัปดาห์ ในช่วง กุมภาพันธ์ และ มีนาคม เนื่องจากการยื่นข้อเสนอปรับค่าตอบแทนไม่สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น การยกเลิกมาตรการตัดเงินบำนาญส่งผลให้รายได้ในช่วงวัยเกษียณลดลง รวมถึงยังพบว่ามหาวิทยาลัยหลายแห่งนั้น มีการทำสัญญาจ้างที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากไม่มีการรับรองชั่วโมงการทำงานและรายได้ขั้นต่ำ

จากปรากฏการณ์แรงงานสหราชอาณาจักรกว่าครึ่งล้านคนนัดหยุดงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ มีแรงงานกว่าหลากหลายภาคส่วนได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่สายอาชีพของตนเอง นอกจากบุคลากรทางการแพทย์ สหภาพแรงงานรถไฟ และอาจารย์และพนักงานมหาวิทยาลัยเเล้ว ยังรวมถึงข้าราชการพลเรือน ครูในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน และอีกหลายอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากการจ้างงานที่ไม่ธรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งสหภาพหลากหลายสาขาอาชีพชวนให้มองว่าการนัดหยุดงานเป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อไม่ให้มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังในยามวิกฤติ โดยแรงงานทุกคนต่างต้องการค่าตอบแทนและสัญญาจ้างที่เป็นธรรม เพื่อให้รู้สึกปลอดภัยในสภาวะวิกฤติค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อสูงสุด

● อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
พนักงานบริษัทยักษ์ใหญ่ Apple สาขาในรัฐแมริแลนด์ ลงมติเข้าร่วมสหภาพแรงงาน สำเร็จเป็นสาขาแรกในสหรัฐฯ
แรงงานไทยในปี 65 เกือบ 100% มี “หนี้สิน” ส่วนค่าแรงขั้นต่ำสวนทางกับค่าครองชีพที่แพงขึ้น 
(ร่าง) ระเบียบปรับเงื่อนไขทำงานของบริษัทแพลตฟอร์ม จะทำให้ gig workers ใน EU เป็น “พนักงาน” ที่มีสิทธิแรงงาน
รายงานของ ILO ชี้ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น ช่วยให้ความสมดุลระหว่างงานและชีวิตดีขึ้น 
SDG Insights | แรงงาน…สู่โลกหลังโควิด-19 

ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
– (8.5) บรรลุการจ้างงานเต็มที่และมีผลิตภาพ และการมีงานที่มีคุณค่าสำหรับหญิงและชายทุกคน รวมถึงเยาวชนและผู้มีภาวะทุพพลภาพ และให้มีการจ่ายที่เท่าเทียมสำหรับงานที่มีคุณค่าเท่าเทียมกัน ภายในปี 2573
– (8.8) ปกป้องสิทธิแรงงานและส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและมั่นคงสำหรับผู้ทำงานทุกคน รวมถึงผู้ทำงานต่างด้าว โดยเฉพาะหญิงต่างด้าว และผู้ที่ทำงานเสี่ยงอันตราย
#SDG10 ลดความเหลื่อมล้ำ
– (10.1) บรรลุการเติบโตอย่างก้าวหน้าและยั่งยืนของรายได้ของประชากรที่อยู่ในกลุ่มรายได้ต่ำกว่า 40% ให้มีอัตราสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ ภายในปี 2573
– (10.2) ให้อำนาจและส่งเสริมความครอบคลุมด้านสังคม เศรษฐกิจและการเมืองสำหรับทุกคน โดยไม่คำนึงถึงอายุ เพศ ความบกพร่องทางร่างกาย เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ แหล่งกำเนิด ศาสนา หรือสถานะทางเศรษฐกิจหรือสถานะอื่น ๆ ภายในปี 2573
#SDG16 ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง
– (16.6) พัฒนาสถาบันทุกระดับให้มีประสิทธิผล มีความรับผิดชอบ และโปร่งใส

แหล่งที่มา:
ชาวอังกฤษครึ่งล้าน นัดหยุดงานครั้งใหญ่ ประท้วงขึ้นค่าแรง : PPTVHD36 
แรงงานสหราชอาณาจักรหลายแสนคน นัดหยุดงานใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี (ตอนที่ 1) | ประชาไท Prachatai.com 
แรงงานสหราชอาณาจักรหลายแสนคน นัดหยุดงานใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี (ตอนที่ 2) | ประชาไท Prachatai.com

ผลงานนี้ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ภายใต้โครงการเร่งรัดการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพของประเทศไทย

Author

  • Praewpan Sirilurt

    Knowledge Communication | มนุษย์ผู้เชื่อว่า “การสื่อสารสามารถเชื่อมต่อความรู้สึกของกันและกันได้” ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน หรือเผชิญกับอะไรอยู่ การสื่อสารจะช่วยบอกเล่าเรื่องราวส่งไปให้แก่ผู้อื่นได้รับรู้

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นและรายละเอียดของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับและใช้เพื่อการพัฒนาการสื่อสารองค์ความรู้ของ SDG Move เท่านั้น
* หมายถึง ข้อมูลที่จำเป็น