ผู้นำโลกประกาศบริจาคเงินกว่า 826 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แก่กองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน (Education Cannot Wait : ECW) เพื่อสนับสนุนการศึกษาของเด็กหญิงและเด็กชายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุฉุกเฉินและวิกฤตอันยืดเยื้อ ซึ่งมีผู้บริจาคทั้งสิ้น 17 ราย จากการประชุมด้านการเงินระดับสูงของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน (Education Cannot Wait High-Level Financing Conference) ที่เกิดขึ้น ซึ่งร่วมจัดประชุมโดยรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ โคลอมเบีย เยอรมนี ไนเจอร์ นอร์เวย์ และซูดานใต้ ระหว่างวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2566 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจะนำเงินบริจาคที่ได้มาช่วยในการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน ปี 2566-2569 โดยการระดมทุนดังกล่าว มียอดบริจาคเกินครึ่งหนึ่งของเป้าหมาย 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับนำมาช่วยเหลือเด็กและวัยรุ่นกว่า 20 ล้านคนใน 4 ปีข้างหน้า
การประชุมดังกล่าว ได้พยายามเน้นย้ำความสำคัญอย่างเร่งด่วน สำหรับการขับเคลื่อนการศึกษาที่มีคุณภาพของเด็กและเยาวชน 222 ล้านคนทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การถูกบังคับให้ต้องโยกย้ายถิ่นฐาน และวิกฤตที่ยืดเยื้ออื่น ๆ ซึ่งนับเป็นคำมั่นสัญญาใหม่ที่แสดงถึงสัญญาณของความมุ่งมั่นทั่วโลกในการจัดหากองทุนเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉินและวิกฤตอันยืดเยื้อที่เด็กและเยาวชนต้องเผชิญ เช่น สงครามในยูเครน ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก และการถูกบังคับให้ต้องโยกย้ายถิ่นฐานที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ รวมถึงวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ส่งผลต่อการพัฒนาทั่วแอฟริกา เอเชีย ตะวันออกกลาง และละตินอเมริกา อันเป็นวาระสำคัญระดับนานาชาติ
Yasmine Sherif ผู้อำนวยการกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน กล่าวว่า “เราจะสามารถช่วยเด็กที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตได้ถึง 10 ล้านคน ด้วยการมอบการศึกษาที่มีคุณภาพ”
โดยสหราชอาณาจักรให้คำมั่นสัญญาบริจาคเงิน 80 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นเงินบริจาคก้อนใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉินรองลงมาจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ที่สนับสนุนแผนยุทธศาสตร์เพื่อช่วยเหลือเด็กด้วยเงิน 210 ล้านยูโรในช่วง 4 ปีข้างหน้า โดยมีผู้บริจาครายอื่น ๆ ได้แก่ แคนาดา อิตาลี กาตาร์ และสเปน รวมถึง โกลบอล บิสสิเนส โคลลิชัน (Global Business Coalition) และ ซูเชอร์ แคนโทนัลแบงก์ (Zürcher Kantonalbank)
สุดท้ายนี้ Gordon Brown ทูตพิเศษสหประชาชาติเพื่อส่งเสริมการศึกษาของโลกและประธานคณะกรรมการอำนวยการระดับสูงของกองทุนโลกเพื่อการศึกษาในภาวะฉุกเฉิน กล่าวว่า “ในฐานะประชาคมโลก เราต้องร่วมมือกันในความพยายามเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำมั่นสัญญาที่จะให้เด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายทุกคนสามารถไปโรงเรียนและตระหนักถึงศักยภาพสูงสุดของตนเองได้”
● อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
– รายงาน ILO ชี้ โควิด-19 เป็นเหตุให้ภาวะว่างงานเพิ่มสูงทั่วโลก อัตราเยาวชนไม่มีการศึกษาและไม่มีงานทำเพิ่มขึ้นกว่า 1.5 %
– สาธารณรัฐเซียร์ราลีโอนและรวันดา ทุ่มงบประมาณพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพ หวังผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้น เพิ่มการเข้าถึงแก่ทุกคน
– UN และพันธมิตรเปิดตัวแคมเปญ #LetMeLearn ก่อนการประชุมสุดยอดด้านการศึกษา – หลังพบว่าเด็ก 260 ล้านคนทั่วโลกไม่ได้เรียนหนังสือ
– SDGs in Focus for HLPF 2022: โลกหลังโควิดมีเด็กหญิงราว 11 ล้านคนเสี่ยงไม่ได้เรียน ต้องเร่งสร้างคุณภาพทางการศึกษาที่มีความเท่าเทียมทางเพศ
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG4 การศึกษาที่มีคุณภาพ
– (4.1) สร้างหลักประกันว่าเด็กชายและเด็กหญิงทุกคนสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่มีคุณภาพ เท่าเทียม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นำไปสู่ผลลัพธ์ทางการเรียนที่มีประสิทธิผล ภายในปี 2573
– (4.7) สร้างหลักประกันว่าผู้เรียนทุกคนได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมไปถึง การศึกษาสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการมีวิถีชีวิตที่ยั่งยืน สิทธิมนุษยชน ความเสมอภาคระหว่างเพศ การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความสงบสุขและไม่ใช้ความรุนแรง การเป็นพลเมืองของโลก และความชื่นชมในความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการที่วัฒนธรรมมีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายในปี 2573
– (4.b) ขยายจำนวนทุนการศึกษาทั่วโลกให้แก่ประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะประเทศพัฒนาน้อยที่สุด รัฐกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็ก และประเทศในแอฟริกา เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา รวมถึงการฝึกอาชีพ และโปรแกรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ด้านเทคนิค วิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ ในประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ภายในปี 2563
#SDG16 ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง
– (16.7) สร้างหลักประกันว่าจะมีกระบวนการตัดสินใจที่มีความรับผิดชอบ ครอบคลุม มีส่วนร่วม และมีความเป็นตัวแทนที่ดี ในทุกระดับการตัดสินใจ
#SDG17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
– (17.3) ระดมทรัพยากรทางการเงินเพิ่มเติมจากแหล่งที่หลากหลายไปยังประเทศกำลังพัฒนา
– (17.14) ยกระดับความสอดคล้องเชิงนโยบายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
– (17.16) ยกระดับหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยร่วมเติมเต็มหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายซึ่งจะระดมและแบ่งปันความรู้ ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และทรัพยากรด้านการเงิน เพื่อจะสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกประเทศ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา
แหล่งที่มา:
– Leaders Pledge USD 826 Million to Education Cannot Wait | News | SDG Knowledge Hub | IISD
– Event: Education Cannot Wait High-Level Financing Conference | SDG Knowledge Hub | IISD
– World Leaders Announce Over US$826 Million in Pledges to Education Cannot Wait at High-Level Financing Conference
ผลงานนี้ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ภายใต้โครงการเร่งรัดการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพของประเทศไทย