Site icon SDG Move

TU SDG Seminars | งานวิจัยจะศึกษาและหนุนเสริมการผลิต บริโภค และท่องเที่ยวระดับพื้นที่ให้ยั่งยืนได้อย่างไร ชวนหาคำตอบจากบทสรุปสัมมนาการวิจัยด้านการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืนระดับพื้นที่

ชวนอ่านบทสรุปการสัมมนาการวิจัย หัวข้อ “การวิจัยด้านการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืนระดับพื้นที่”  
โดย ผศ. ดร.วิลาวัณย์ ภมรสุวรรณ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้เวทีสัมมนาการวิจัยด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ผ่านระบบ Zoom Meeting

ด้วยประเด็นที่กล่าวถึงสนับสนุนการผลิต การบริโภค และการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคนในชุมชน งานสัมมนาข้างต้นจึงมีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 3 เป้าหมาย ได้แก่
เป้าหมายที่ 8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ เป้าหมายที่ 11 เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน และเป้าหมายที่ 12 การผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน


01 – บทสรุปการสัมมนาหัวข้อ “การวิจัยด้านการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืนระดับพื้นที่”   

ผศ. ดร.วิลาวัณย์ ในฐานะนักวิจัยแนวหน้าของโครงการ TU – SDG Research ได้นำเสนอประเด็นจากประสบการณ์การทำงานวิจัยเกี่ยวกับการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืนระดับพื้นที่โดยแบ่งเป็นประเด็นย่อยที่น่าสนใจ ดังนี้

ประเด็นแรก การนำเสนองานวิจัยและหัวข้อวิจัยที่ผ่านมา

ผศ. ดร.วิลาวัณย์ ได้กล่าวถึงงานวิจัยที่ผ่านมา 3 ด้าน ได้แก่ 

ประเด็นที่สอง ขั้นตอนหรือกระบวนการวิจัยที่มีความสำคัญต่องานวิจัย

ผศ. ดร.วิลาวัณย์ แสดงความเห็นว่า สิ่งสำคัญของกระบวนการวิจัย คือการมีส่วนร่วมของชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการมีส่วนร่วมต้องมาจากความเข้าใจและการเห็นค่าในสิ่งที่กำลังทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงพื้นที่อย่างยั่งยืน คนในพื้นที่และหน่วยงานต่าง ๆ ต้องเข้าใจว่าสิ่งที่ทำมีความสำคัญอย่างไร การดำเนินการด้วยกระบวนการใด และผลลัพธ์จะยั่งยืนอย่างไร

ดังตัวอย่าง “กระบวนการวิจัยของโครงการเมืองเก่า” ที่นอกจากจะพิจารณาจากลักษณะกายภาพของบ้านเมืองและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ยังต้องอาศัยคนในชุมชนที่ต้องเห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านั้นด้วย ซึ่งการที่ประเทศไทยมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม กระบวนการเมืองเก่าที่มุ่งให้เกิดการเชิดชูวัฒนธรรมจึงเป็นนโยบายที่จะช่วยขับเคลื่อนและสร้างกลุ่มคนให้ดูแลเมืองของตน 

นอกจากนี้ ผศ. ดร.วิลาวัณย์ เปิดเผยว่าระยะแรกของการลงพื้นที่พูดคุยกับหน่วยงานราชการนั้นค่อนข้างยากลำบาก เพราะหน่วยงานเหล่านั้นไม่สนใจและไม่เห็นความเกี่ยวข้องกับบทบาทหรือภารกิจของตน การออกแบบกระบวนการปรับกระบวนทัศน์ใหม่จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหน่วยงานส่วนท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของพื้นที่และเป็นสื่อกลางในการเข้าถึงผู้คน โดยในแง่ของกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วม ต้องเริ่มจากการค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในพื้นที่ แล้วจึงพัฒนาเป็นการเปิดเวทีหรือพื้นที่พูดคุยอย่างเป็นทางการ โดยต้องแก้ไขความเข้าใจว่าเมืองเก่าไม่ใช่การแช่แข็งเมือง และต้องคิดด้วยว่าจะทำอย่างไรให้สามารถพัฒนาเมืองไปพร้อม ๆ กับอนุรักษ์ด้วยกันให้ได้ 

ความเข้าใจเมืองจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสนใจของท้องถิ่น โจทย์ใหญ่คือทุกภาคส่วนในพื้นที่รับรู้ได้ถึงความมีคุณค่าในตนเองหรือการมีใจต่อเมืองหรือไม่ เพราะสุดท้ายหากไม่มีใจที่จะอนุรักษ์ กระบวนการต่าง ๆ ก็จะประสบความสำเร็จได้ยาก

ประเด็นที่สาม อุปสรรคและความท้าทายของการทำวิจัยในปัจจุบัน

ความท้าทายในการทำวิจัยที่ ผศ. ดร.วิลาวัณย์ ระบุถึง 2 เรื่องที่เป็นอุปสรรคและความท้าทายของการทำวิจัย ได้แก่ เรื่องแรก การสร้างความเข้าใจ การยอมรับ และความร่วมมือในการบริหารจัดการเมืองและชุมชน โดยสิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจด้วยหลักเหตุผล อีกเรื่องคือ การถ่ายทอดองค์ความรู้ เนื่องจากแต่ละพื้นที่มีบริบทแตกต่างกัน การถ่ายทอดความรู้ให้นักศึกษาและทีมงานรวมไปถึงหนุนเสริมความรู้แก่พื้นที่จึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งนอกจากจะให้ความรู้แล้วยังต้องคำนึงถึงการสร้างการเชื่อมโยงระหว่างกันด้วย

ประเด็นที่สี่ ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาการทำวิจัยเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การพัฒนาระดับใดหรือประเภทใดก็ตาม สถาบันการศึกษาเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนที่สำคัญต่อการพัฒนาชุมชนในหลากหลายด้าน ซึ่งการพัฒนาที่จะยั่งยืนได้ต้องใช้พื้นที่ตัวเองและการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ รวมถึงเป็นตัวเชื่อมในการทำงานร่วมกันให้ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชน 


02 – ประเด็นสำคัญที่ได้จากการแลกเปลี่ยนพูดคุยในห้องสัมมนา

การสนทนาแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ร่วมสัมมนากับนักวิจัยแนวหน้า มีประเด็นสำคัญอย่างน้อย 3 ประเด็น ดังนี้

1. ศิลปะในเมืองรอง : ผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนว่าตนจัดทำคลิปอาร์ตชื่อ ร้อยแรงบันดาลไทย เป็นการศึกษาและสนใจเกี่ยวกับศิลปะในเมืองรอง เพื่อนำมาสร้างวิดีโอให้ชุมชนนำไปใช้ต่อหรือดำเนินการเองได้

2. การเสริมศักยภาพของเมืองเก่า : แนวคิดเมืองเก่าถูกคิดมาเพื่อให้สอดรับกับนโยบายเมืองรอง ในการนำเสนอศักยภาพของจังหวัดหรือพื้นที่ที่มักถูกมองข้ามจากนักท่องเที่ยว 

3. ความเชื่อเรื่องความเจริญที่จะมาเปลี่ยนผ่านพื้นที่ : หลายชุมชนเกิดความขัดแย้งกันเองด้วยปัญหาแนวทางการแก้ไขสมัยใหม่ จนต้องเกิดการไกล่เกลี่ยที่ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ และหากชุมชนไม่เกิดความเข้าใจ การขับเคลื่อนก็จะทำต่อได้ยาก จนต้องใช้การสื่อสารด้วยกลวิธีต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น

กล่าวโดยสรุป การสัมมนาหัวข้อข้างต้นได้เปิดเผยให้เห็นถึงประสบการณ์การทำงานวิจัยในการหนุนเสริมการท่องเที่ยวเชิงพื้นที่และวัฒนธรรมที่ยั่งยืน โดยมีชุมชนเป็นแกนกลางสำคัญของการขับเคลื่อน การนำเสนอของ ผศ. ดร.วิลาวัณย์ ครอบคลุมทั้งประเด็นแนวทางการดำเนินการและอุปสรรคท้าทาย ทั้งยังได้ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจการวิจัยด้านการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืนระดับพื้นที่อีกด้วย

รับชมวิดีโอบันทึกจากงานสัมมนาย้อนหลัง ได้ที่นี่ : https://youtu.be/tNVkreZJMYU
ติดตามสรุปสัมมนาในโครงการทั้ง 12 เวที ได้ที่ : sdgmove.com

ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
– (8.9) ออกแบบและใช้นโยบายที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนที่จะสร้างงาน และส่งเสริมวัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ภายในปี 2573
#SDG 11 เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน
– (11.a) สนับสุนนการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมระหว่างพื้นที่เมือง รอบเมือง และชนบท โดยการเสริมความแข็งแกร่งของการวางแผนการพัฒนาในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ
– (11.4) เสริมความพยายามที่จะปกป้องและคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติของโลก
#SDG12 การผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน
– (12.4) บรรลุเรื่องการจัดการสารเคมีและของเสียทุกชนิดตลอดวงจรชีวิตของสิ่งเหล่านั้นด้วยวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศที่ตกลงกันแล้ว และลดการปลดปล่อยสิ่งเหล่านั้นออกสู่อากาศ น้ำ และดินอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อจะลดผลกระทบทางลบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด ภายในปี พ.ศ. 2563
– (12.b) พัฒนาและดำเนินการใช้เครื่องมือเพื่อติดตามผลกระทบของการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนที่สร้างงานและส่งเสริมวัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น

กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านวิจัยแบบบูรณาการระดับแนวหน้า เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (TU-SDG Research Network)

ตวงขวัญ ลือเมือง – ถอดความ
อติรุจ ดือเระ – เรียบเรียง
พิมพ์นารา อินต๊ะประเสริฐ – พิสูจน์อักษร
วิจย์ณี เสนเเดง – ภาพประกอบ

Author

Exit mobile version