Site icon SDG Move

บทสรุปความต้องการของพื้นที่: สิ่งที่ภาคใต้ต้องการเพื่อแก้ปัญหาสำคัญ


1. ประเด็นการพัฒนาที่พื้นที่ให้ความสำคัญ

การทบทวนความสำคัญของประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ปีที่ 2 ของภาคใต้ มีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 32 คน แบ่งเป็นภาครัฐ จำนวน 11 คน ภาคเอกชน จำนวน 1 คน ภาคประชาสังคม/ภาคองค์กรชุมชน/ชาวบ้าน จำนวน 7 คน ภาควิชาการ จำนวน 10 คน  อื่น ๆ จำนวน 3 คน ได้ผลการทบทวนเปรียบเทียบกับโครงการปีที่ 1 ดังตารางต่อไปนี้

ตารางเปรียบเทียบการทบทวนความสำคัญของประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืนภาคใต้ ปีที่ 1 และปีที่ 2

ลำดับปีที่ 1ปีที่ 2
1ขยะของเสียที่เพิ่มขึ้นทุกชนิดปัญหายาเสพติด
2นักท่องเที่ยวมีจำนวนลดลง เนื่องจากการระบาดของ Covid-19การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
และภัยพิบัติธรรมชาติ
3ปัญหายาเสพติดขยะของเสียที่เพิ่มขึ้นทุกชนิด
4ปัญหาความยากจนความเหลื่อมล้ำ
5ความสมบูรณ์ของธรรมชาติถดถอยลงการบริหารจัดการน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพ

จากตารางข้างต้น สรุปได้ว่าประเด็นการพัฒนา 5 ลำดับแรกที่พื้นที่ภาคใต้ให้ความสำคัญในปีที่ 1 และปีที่ 2  โดยในปีที่ 1 ประกอบด้วย ประเด็นภายใต้มิติสิ่งแวดล้อม 2 ประเด็น คือ ขยะของเสียที่เพิ่มขึ้นทุกชนิด และ ความสมบูรณ์ของธรรมชาติถดถอยลง ซึ่งในปีที่ 2  มี 3 ประเด็น คือ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติธรรมชาติ ขยะของเสียที่เพิ่มขึ้นทุกชนิด และการบริหารจัดการน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ ประเด็นภายใต้มิติสังคม  ในปีที่ 1 มี 2ประเด็น คือ ปัญหายาเสพติด และ ปัญหาความยากจน ซึ่งประเด็นปัญหายาเสพติด เป็นประเด็นอันดับ 1 ที่ในปีที่ 2 ด้วย และประเด็นภายใต้มิติเศรษฐกิจ ในปีที่ 1 มี 1 ประเด็น คือ นักท่องเที่ยวมีจำนวนลดลง เนื่องจากการระบาดของ Covid-19 ขณะที่ ปีที่ 2 ก็มี 1 ประเด็น คือ ความเหลื่อมล้ำ


2. งานวิจัยที่พื้นที่ต้องการเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองต่อปัญหาสำคัญ

การประชุมระดมความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญของภาคใต้ สรุปได้ว่าพื้นที่ต้องการงานวิจัยเพื่อตอบสนองต่อปัญหาระดับพื้นที่ทั้งสิ้น 16 ประเด็น แบ่งตามมิติดังนี้

  1. การศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาแนวทางการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่  เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับการท่องเที่ยว โดยอาศัยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ รวมทั้งพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับชุมชน [SDG8, SDG12]
  2. การปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำการเกษตรสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มรายได้และความรู้ให้เกษตรกรสามารถปรับตัวและยกระดับสถานะทางเศรษฐกิจให้มีมูลค่าสูงขึ้น เช่น ส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีทางการเกษตร [SDG2, SDG8]
  3. การศึกษาวิจัยภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่ให้ดีมากขึ้น [SDG4, SDG8]
  4. การศึกษาวิจัยเรื่องการค้าชายแดน ควรมีการทำข้อมูลที่เป็นรูปธรรม ด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจของชายแดน และแนวทางการพัฒนาการค้าขาย [SDG8, SDG17]
  5. การบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของเครือข่ายธุรกิจท่องเที่ยว โดยเน้นให้ชุมชนเข้ามามีบทบาทในการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน [SDG8, SDG12]
  1. งานวิจัยเชิงระบบของสถานการณ์การศึกษาในพื้นที่ เช่น การจัดการศึกษาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบท และตอบโจทย์กับตลาดแรงงาน [SDG4, SDG8]
  2. การศึกษาสถานการณ์และปัญหาครอบครัวในบริบทพื้นที่ เพื่อหาทางออกและสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันครอบครัว [SDG10, SDG16]
  3. การศึกษาและวิจัยปัญหาธรรมาภิบาลของหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ในพื้นที่ โดยเฉพาะกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในการเข้าไปกำหนดนโยบาย หรือการนำเสนอแนวคิดที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชน [SDG16]
  4. การศึกษาวิจัยแนวทางของการปฏิรูปกลไกภาครัฐและภาคการเมืองท้องถิ่น เพื่อค้นหาทางออกการแก้ไขปัญหาการเมืองในพื้นที่ และการสร้างกลไกสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน [SDG16]
  5. งานวิจัยเพื่อทำความเข้าใจปัญหายาเสพติด ค้นหามาตรการและกลไกของการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมกับบริบทในพื้นที่ [SDG16]
  6. การศึกษาวิจัยเรื่องการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) [SDG16]
  7. การจัดการความรู้และจัดทำฐานข้อมูล เพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ ได้เข้าถึงข้อมูลและงานวิจัย เพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน  [SDG4]
  8. การศึกษาวิจัยสถานการณ์ของผู้สูงอายุในพื้นที่ โดยการรับมือกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมสูงวัย (aging society) [SDG3]
  1. การศึกษาวิจัยระบบนิเวศของทะเลสาบสงขลา เพื่อทำความเข้าใจความเชื่อมโยงของการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของทะเลสาบสงขลา ที่ส่งผลกระทบด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของพื้นที่ [SDG6, SDG15]
  2. งานวิจัยทางด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อย่างยั่งยืน เช่น การจัดการขยะ โดยสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน การนำขยะมาเข้าสู่กระบวนการผลิตปุ๋ย รวมถึงการเปลี่ยนเป็นพลังงานสะอาด หรือ พลังงานทดแทน เป็นต้น [SDG7, SDG11, SDG12]
  3. การศึกษาวิจัยปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนและอย่างมีส่วนร่วมกับชุมชน  [SDG11, SDG13]

นอกจากนี้ การประชุมระดมความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญยังระบุถึงหน่วยงานที่ได้ทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนกลไกวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) ระดับภาคใต้ แบ่งตามภาคส่วนที่เข้ามามีบทบาทได้ดังนี้

ภาคการศึกษาและวิชาการ ได้แก่

ภาครัฐ ได้แก่

ภาคประชาชน ได้แก่

ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และหน่วยงานส่งเสริมผู้ประกอบการ ได้แก่


3. ข้อเสนอแนะสำหรับการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน

จากกระบวนการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ให้ข้อเสนอแนะต่อการทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนกลไก ววน. ระดับพื้นที่ เช่น

คณะวิจัยภาคใต้: รศ. ดร.พรพันธุ์ เขมคุณาศัย, วีณา ลีลาประเสริฐศิลป์ มหาวิทยาลัยทักษิณ และ ผศ. ดร.กรุณา แดงสุวรรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา และคณะ

● บทความที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Area Need 
– Introduction of Area Need | เราจะรู้ได้อย่างไรว่างานวิจัยที่มีอยู่ตอบโจทย์ความต้องการพื้นที่
– พื้นที่ต้องการอะไร? : ความต้องการและข้อเสนอเชิงนโยบายจากภาคเหนือ
 Area Need พื้นที่ต้องการอะไร? | ความต้องการและข้อเสนอเชิงนโยบายจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
– พื้นที่ต้องการอะไร?: ความต้องการและข้อเสนอเชิงนโยบายจากภาคตะวันออก 
– พื้นที่ต้องการอะไร? : ความต้องการและข้อเสนอเชิงนโยบายจากภาคกลาง
– พื้นที่ต้องการอะไร? : ความต้องการและข้อเสนอเชิงนโยบายจากภาคใต้
– พื้นที่ต้องการอะไร?: ความต้องการและข้อเสนอเชิงนโยบายจากภาคใต้ชายแดน
Area Need 05 | Area Need 2: What’s next step? การติดตาม และวางแผนต่อไปสำหรับโครงการความต้องการของพื้นที่ ปีที่ 2 
บทสรุปความต้องการของพื้นที่: สิ่งที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องการเพื่อแก้ปัญหาสำคัญ
บทสรุปความต้องการของพื้นที่: สิ่งที่ภาคเหนือต้องการเพื่อแก้ปัญหาสำคัญ 
บทสรุปความต้องการของพื้นที่: สิ่งที่ภาคกลางต้องการเพื่อแก้ปัญหาสำคัญ
บทสรุปความต้องการของพื้นที่: สิ่งที่ภาคตะวันออกต้องการเพื่อแก้ปัญหาสำคัญ 

ซีรีส์ Area Need จะสรุปข้อค้นพบสำคัญของโครงการปีที่ 1  และอัปเดตสิ่งที่เรากำลังทำต่อในปีที่ 2 ไปจนถึง พฤษภาคม 2566

แพรวพรรณ ศิริเลิศ – เรียบเรียง
พิมพ์นารา อินต๊ะประเสริฐ – บรรณาธิการ
วิจย์ณี เสนเเดง – ภาพประกอบ

Author

Exit mobile version