1. ประเด็นการพัฒนาที่พื้นที่ให้ความสำคัญ
การทบทวนความสำคัญของประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ปีที่ 2 ของภาคมีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 21 คน แบ่งเป็น ภาครัฐ จำนวน 2 คน ภาคประชาสังคม จำนวน 13 คน ภาควิชาการจำนวน 3 คน ภาคอื่น ๆ จำนวน 1 คน ผู้ไม่ให้คำตอบ จำนวน 2 คน
ตารางเปรียบเทียบการทบทวนความสำคัญของประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืน
ภาคใต้ชายแดน ปีที่ 1 และปีที่ 2
ลำดับ | ปีที่ 1 | ปีที่ 2 |
1 | ปัญหายาเสพติด | การเจรจาแบบมีส่วนร่วมเพื่อลดความรุนแรงในพื้นที่ |
2 | นิติธรรมและการเข้าถึงความยุติธรรมเพื่อลดความรุนแรงในพื้นที่ | นิติธรรมและการเข้าถึงความยุติธรรมเพื่อลดความรุนแรงในพื้นที่ |
3 | การสร้างพื้นที่ปลอดภัย ระงับเหตุความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชน | ปัญหายาเสพติด |
4 | การศึกษา | สถานการณ์ความไม่สงบส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนในพื้นที่ |
5 | การค้าชายแดน | การสร้างพื้นที่ปลอดภัย ระงับเหตุความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชน |
จากตารางข้างต้น สรุปได้ว่าประเด็นการพัฒนา 5 ลำดับแรกที่พื้นที่ภาคใต้ชายแดนให้ความสำคัญในปีที่ 1 และปีที่ 2 มีความแตกต่างกันถึง 4 ประเด็น กล่าวคือ ประเด็น “การศึกษา” และประเด็น “การค้าชายแดน” ปรากฏเฉพาะในปีที่ 1 ส่วนประเด็น “การเจรจาแบบมีส่วนร่วมเพื่อลดความรุนแรงในพื้นที่” และประเด็น “สถานการณ์ความไม่สงบส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนในพื้นที่” ปรากฏเฉพาะในปีที่ 2
ทั้งนี้ สรุปประเด็นสำคัญทั้งหมดโดยแบ่งตามมิติต่าง ๆ ได้ดังนี้ ประเด็นภายใต้มิติเศรษฐกิจ 1 ประเด็น ได้แก่ การค้าชายแดน ประเด็นภายใต้มิติสังคม 2 ประเด็น ได้แก่ ปัญหายาเสพติด และ การศึกษา ประเด็นภายใต้มิติสันติภาพ 3 ประเด็น ได้แก่ การเจรจาแบบมีส่วนร่วมเพื่อลดความรุนแรงในพื้นที่ นิติธรรมและการเข้าถึงความยุติธรรมเพื่อลดความรุนแรงในพื้นที่ การสร้างพื้นที่ปลอดภัย ระงับเหตุความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชน และสถานการณ์ความไม่สงบส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนในพื้นที่ สำหรับมิติสิ่งแวดล้อม พบว่าไม่ปรากฏในประเด็นการพัฒนา 5 ลำดับแรก ทั้งในปีที่ 1 และปีที่ 2
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีความเปลี่ยนแปลงในการลำดับประเด็น เนื่องจากประเด็นที่พื้นที่ให้ความสำคัญมากที่สุดในปีที่ 1 คือ ปัญหายาเสพติด แต่ปีที่ 2 คือ การเจรจาแบบมีส่วนร่วมเพื่อลดความรุนแรงในพื้นที่
2. งานวิจัยที่พื้นที่ต้องการเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองต่อปัญหาสำคัญ
การประชุมระดมความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญของภาคใต้ชายแดน สรุปได้ว่าพื้นที่ต้องการงานวิจัยเพื่อตอบสนองต่อปัญหาระดับพื้นที่ทั้งสิ้น 17 ประเด็น แบ่งตามมิติดังนี้
- มิติเศรษฐกิจ ได้แก่
1. งานวิจัยเชิงระบบที่ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างและเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรในท้องถิ่น เพื่อนําไปสู่การแก้ไขปัญหาและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ [SDG8]
2. งานวิจัยเกี่ยวกับสวัสดิภาพแรงหรือคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงกลุ่มแรงงานที่ไปทํางานในต่างแดน เช่น ประเทศมาเลเซีย [SDG1, SDG8]
3. งานวิจัยบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยเน้นการมีส่วนร่วมภาคประชาชน [SDG8, SDG12] - มิติสังคม ได้แก่
1. งานวิจัยแนวทางของการกระจายอํานาจชุมชนและแนวทางการพัฒนาชุมชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ [SDG10, SDG16]
2. งานวิจัยเชิงระบบที่ศึกษาปัญหาเชิงโครงสร้างความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนําไปสู่การหาทางออกและการแก้ไขปัญหา [SDG10]
3. งานวิจัยด้านความมั่นคงทางอาหารหรือโภชนาการทางด้านอาหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ [SDG2]
4. งานวิจัยเพื่อศึกษาระบบราชการและการบริหารจัดการของภาครัฐที่เหมาะสมกับบริบทของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของภาครัฐและการทําให้ประชาชนเข้าถึงบริการของรัฐ อย่างเท่าเทียมและเหมาะสม [SDG16] - มิติสิ่งแวดล้อม ได้แก่
1. งานวิจัยการจัดการภัยพิบัติโดยชุมชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ [SDG1, SDG11, SDG13]
2. งานศึกษาวิจัยการทําเกษตรกรรมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีประเด็นสําคัญที่เกี่ยวข้อง อาทิ การจัดการภาคการเกษตรกรรมเน้นการมีส่วนร่วม กลไกเชื่อมโยงระบบเกษตรกรรมแบบครบห่วงโซ่ [SDG2] - มิติสันติภาพ
1. งานวิจัยกระบวนการพูดคุยกับชาวพุทธในพื้นที่เพื่อสร้างสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ [SDG16]
2. งานวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสร้างสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ [SDG9, SDG16]
3. งานวิจัยอิทธิพลของศาสนาต่อทัศนคติและวิธีคิดด้านสันติภาพและการจัดการความขัดแย้งของคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ [SDG16]
4. งานวิจัยด้านกระบวนการยุติธรรมและการซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดีความมั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ [SDG16]
5. งานวิจัยปัญหาการใช้ความรุนแรงต่อสตรีและเด็กในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ [SDG5, SDG16]
6. งานวิจัยศึกษาแนวทางและการดําเนินงานของหน่วยงานความมั่นคงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อทําความเข้าใจทัศนคติและวิธีคิดของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงซึ่งมีบทบาทในการบริหารจัดการความขัดแย้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ [SDG16]
7. งานวิจัยเกี่ยวกับอิทธิพลในเชิงอํานาจและความคิดของกลุ่มผู้มีอิทธิพลคนพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงในพื้นที่มาเป็นระยะยาวนาน [SDG16]
8. งานวิจัยเชิงศึกษาเปรียบเทียบเพื่อหาตัวแบบของการขับเคลื่อนกระบวนการสันติภาพในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น ในกรณี ของ อาเจะ – อินโดนีเซีย หรือ มินดาเนา – ฟิลิปปินส์ เป็นต้น โดยศึกษาทั้งตัวอย่างที่ประสบความสําเร็จและตัวอย่างที่ไม่ประสบความสําเร็จ [SDG16]
นอกจากนี้ การประชุมระดมความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญยังระบุถึงหน่วยงานที่ได้ทํางานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนกลไกวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) ระดับภาคใต้ชายแดน ได้แก่
- สถาบันการศึกษา : บทบาทหน้าที่ เช่น สนับสนุนให้งบประมาณการทําวิจัยให้กับอาจารย์นักวิชาการและสนับสนุนให้นักศึกษาได้ออกไปทําวิจัยร่วมกับชุมชนในการแก้ไขปัญหาของพื้นที่
- สถาบันวิจัย : บทบาทหน้าที่ เช่น ผลิตสร้างความรู้เพื่อนําไปใช้ในการแก้ไขปัญหา และทํางานเกาะติด ประเด็นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นตัวกลางในการสร้างความร่วมมือกับ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาอย่างแท้จริง
- สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ : บทบาทหน้าที่ เช่น สนับสนุนและส่งเสริมงบประมาณ องค์ความรู้ และเครื่องมือของการพัฒนานวัตกรรมที่จะนําไปใช้ในการพัฒนามิติต่าง ๆ
- ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ : บทบาทหน้าที่ เช่น สนับสนุนเงินทุนในการทําวิจัยและมีพี่เลี้ยงช่วยสนับสนุนติดตามโครงการวิจัย
- ภาคธุรกิจเอกชน : บทบาทหน้าที่ เช่น สนับสนุนการทําวิจัยของชุมชนโดยให้มีนักวิจัยจากชุมชนและใช้ภูมิปัญญาของชุมชน
- กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ : บทบาทหน้าที่ เช่น ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างพลังทุนในพื้นที่ และพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในพื้นที่
- กลุ่มขององค์การมหาชน : บทบาทหน้าที่ เช่น นําเสนอประเด็นปัญหาในพื้นที่โดยไม่มีข้อจํากัดและทําให้เกิดการทํางานได้อย่างยืดหยุ่น และสนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรในการพัฒนาและแก้ไข ปัญหาของพื้นที่
- ภาคการเมือง : บทบาทหน้าที่ เช่น มีอํานาจและอิทธิพลในการดําเนินการจัดการงานในพื้นที่และสามารถส่งต่อผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนในระดับนโยบายได้และพิจารณางบประมาณในแก้ไขปัญหา
- องค์กรเอกชนระหว่างประเทศ (INGOs) : บทบาทหน้าที่ เช่น มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและเฉพาะประเด็นที่จะนําเอามาสร้างการเรียนรู้ให้กับหน่วยงานและประชาชนพื้นที่เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหา
- ภาคประชาสังคม : บทบาทหน้าที่ เช่น ขับเคลื่อนการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นเจ้าของปัญหาและรู้ปัญหาจริงที่เกิดขึ้นซึ่งสามารถนำไปเป็นโจทย์ของการทำวิจัยได้
- สมาคมต่าง ๆ เช่น สภาคมประมงพืนบ้าน สมาคม SMEs ในพืนทีสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ : บทบาทหน้าที่ เช่น ขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาในพื้นที่
- สภาเด็กและกลุ่มเยาวชน : บทบาทหน้าที่ เช่น ตัวกลางในการสื่อสารและขับเคลื่อนเพื่อให้เห็นคนในชุมชนรับรู้และมองเห็น ปัญหาในที่เกิดขึ้น
- องค์กรหรือกลุ่มผู้นำทางศาสนา : บทบาทหน้าที่ เช่น ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับศาสนา และการอยู่ร่วมกันของแต่ละศาสนา
- กลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการเจรจาสันติภาพ : บทบาทหน้าที่ เช่น เป็นกลไกของการขับเคลื่อนให้เกิดการเจรจาสันติภาพในพื้นที่ 3 จังหวัด ชายแดนใต้ และหาทางออกของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงในพื้นที่
3. ข้อเสนอแนะสำหรับการทํางานร่วมกันของทุกภาคส่วน
จากกระบวนการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ให้ข้อเสนอแนะต่อการทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนกลไก ววน. ระดับพื้นที่ เช่น
- ส่งเสริมและสนับสนุนแนวทางการทําวิจัยแบบบูรณาการข้ามศาสตร์สาขาวิชา เพื่อให้เกิดการผสมผสานและการใช้ความรู้จากหลากหลายศาสตร์ไปช่วยแก้ไขปัญหาด้านการพัฒนาที่มีความสลับซับซ้อนซึ่งอาจนําไปสู่การสร้าง “ภาคีเครือข่ายเพื่อการพัฒนาระดับพื้นที่”
- การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำของประชาชน ควรมีประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กลไกการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน 2.การแก้ไขปัญหาเชิงระบบทรัพยากร 3.การจัดการทรัพยากรเพื่อการท่องเที่ยวอย่างสมดุล และ 4.การสร้างนวัตกรรมด้านเกษตรสนับสนุนชุมชนฐานราก
- มีการจัดการความรู้และจัดทําฐานข้อมูลเพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ได้เข้าไปใช้ประโยชน์จากข้อมูลและงานวิจัยเพื่อนําไปใช้แก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน
คณะวิจัยภาคใต้ชายแดน: ผศ.เอกรินทร์ ต่วนศิริ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผศ. ดร.เเพร ศิริศักดิ์ดำเกิง มหาวิทยาลัยศิลปากร เเละคณะ
● บทความที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Area Need
– Introduction of Area Need | เราจะรู้ได้อย่างไรว่างานวิจัยที่มีอยู่ตอบโจทย์ความต้องการพื้นที่
– พื้นที่ต้องการอะไร? : ความต้องการและข้อเสนอเชิงนโยบายจากภาคเหนือ
– Area Need พื้นที่ต้องการอะไร? | ความต้องการและข้อเสนอเชิงนโยบายจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
– พื้นที่ต้องการอะไร?: ความต้องการและข้อเสนอเชิงนโยบายจากภาคตะวันออก
– พื้นที่ต้องการอะไร? : ความต้องการและข้อเสนอเชิงนโยบายจากภาคกลาง
– พื้นที่ต้องการอะไร? : ความต้องการและข้อเสนอเชิงนโยบายจากภาคใต้
– พื้นที่ต้องการอะไร?: ความต้องการและข้อเสนอเชิงนโยบายจากภาคใต้ชายแดน
– Area Need 05 | Area Need 2: What’s next step? การติดตาม และวางแผนต่อไปสำหรับโครงการความต้องการของพื้นที่ ปีที่ 2
– บทสรุปความต้องการของพื้นที่: สิ่งที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องการเพื่อแก้ปัญหาสำคัญ
– บทสรุปความต้องการของพื้นที่: สิ่งที่ภาคเหนือต้องการเพื่อแก้ปัญหาสำคัญ
– บทสรุปความต้องการของพื้นที่: สิ่งที่ภาคกลางต้องการเพื่อแก้ปัญหาสำคัญ
– บทสรุปความต้องการของพื้นที่: สิ่งที่ภาคตะวันออกต้องการเพื่อแก้ปัญหาสำคัญ
– บทสรุปความต้องการของพื้นที่: สิ่งที่ภาคใต้ต้องการเพื่อแก้ปัญหาสำคัญ
– Director’s Note: 01 -โครงการ Area-Needs, สกสว. และ SDG Move
ซีรีส์ Area Need จะสรุปข้อค้นพบสำคัญของโครงการปีที่ 1 และอัปเดตสิ่งที่เรากำลังทำต่อในปีที่ 2 ไปจนถึง พฤษภาคม 2566
อติรุจ ดือเระ – เรียบเรียง
พิมพ์นารา อินต๊ะประเสริฐ – บรรณาธิการ
วิจย์ณี เสนเเดง – ภาพประกอบ