เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 ธนาคารโลก (World Bank: WB) เผยแพร่ “รายงานการวิเคราะห์แนวทางการพัฒนาประเทศอย่างเป็นระบบ ฉบับปี 2567 (Systemic Country Diagnostic Update: SCD Update) สำหรับประเทศไทย” ซึ่งได้วิเคราะห์ความท้าทายและโอกาสในการพัฒนาประเทศแบบรอบด้าน เนื่องจากปัจจุบันสภาพแวดล้อมทั้งภายในและนอกประเทศทำให้ประเทศไทยต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ เช่น การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (geo-politics) ที่เพิ่มขึ้น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว และโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งสร้างแรงกดดันให้ทั้งภาคเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และประชากรอีกด้วย
รายงานฉบับนี้ ได้พยายามทบทวนรากฐานเดิมและหาแนวทางรับมือกับปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลก และเร่งลดปัญหาความยากจนและกระจายความเจริญอย่างทั่วถึงในรูปแบบที่ยั่งยืนอย่างรอบด้าน เนื่องจากที่ผ่านมาการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศยังคงมีข้อจำกัด แม้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย จะเร่งตัวขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่ยังช้ากว่าประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน รวมถึงศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำลงเนื่องจากการลงทุนที่ลดลงผลิตภาพที่เติบโตช้าลง และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้และความมั่งคั่งที่สูงขึ้น
รายงานนำเสนอแนวทางการปรับปรุง 5 ประเด็นสำคัญ ดังนี้
- 1. การเสริมสร้างความมั่นคงด้านทุนมนุษย์ เพิ่มการลงทุนด้านการศึกษาและการจัดสรรทรัพยากรการศึกษา การกำหนดนโยบายการย้ายถิ่นแบบองค์รวม ร่วมกับการปฏิรูปเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของแรงงานหญิงและผู้สูงอายุ การปฏิรูปเงินบำนาญ และการให้ความช่วยเหลือทางสังคมแบบกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เพื่อความยั่งยืนทางการคลัง
- 2. เศรษฐกิจที่มีการแข่งขันและนวัตกรรม เพิ่มขีดความสามารถและกฎระเบียบในการแข่งขันทางเทคโนโลยี ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะ และเสริมสร้างศักยภาพ SMEs ด้วยการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงทางการเงิน รวมถึงควรจัดการหนี้ครัวเรือนด้วยการให้ความรู้ด้านการเงินและการคุ้มครองผู้บริโภค
- 3. การปลดล็อกการเติบโตในเมืองรอง การพัฒนาในอนาคตจะต้องป้องกันการขยายตัวของเมืองและความแออัดในพื้นที่เกิดใหม่ โดยคำนึงถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปรับปรุงการคมนาคม รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแบบคาร์บอนต่ำ เพื่อสร้างการเติบโตที่เท่าเทียม
- 4. การพัฒนาที่ยั่งยืนและการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ต้องส่งเสริมแนวทางการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืนและภาคการท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบ พร้อมเตรียมรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น อุทกภัยและภัยแล้ง การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ รวมถึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืน
- 5. การสร้างสถาบันที่เอื้ออำนวย ควรส่งเสริมความทั่วถึงและความโปร่งใสในการบริการสาธารณะและการดำเนินการของรัฐวิสาหกิจ โดยมีการพัฒนาระบบเพื่อให้การทำงานร่วมกันระหว่างส่วนกลางและท้องถิ่นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสร้างขีดความสามารถให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดสรรงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ดี รายงานการวิเคราะห์แนวทางในการพัฒนาประเทศอย่างเป็นระบบ ฉบับก่อนหน้าซึ่งตีพิมพ์และเผยแพร่ในปี 2559 เป็นรากฐานสำคัญในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและความท้าทายที่เกี่ยวข้อง ส่วนฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2567 นี้เป็นการต่อยอดจากรากฐานเดิมและมุ่งแก้ไขปัญหาตามการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มโลก เพื่อปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบได้ดียิ่งขึ้น
● อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
– รายงานเศรษฐกิจไทยปี 2566 การท่องเที่ยวกลับมาเติบโตอีกครั้ง – แต่ยังต้องรับมือกับความเสี่ยงจากอุทกภัยและภัยแล้ง
– World Bank เผยปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย ยังน่าห่วงเผชิญภาวะหยุดชะงัก – พร้อมชี้เศรษฐกิจหมุนเวียนคือหนึ่งในทางออก
– รายงานของธนาคารโลก ชี้ไทยจำเป็นต้องเพิ่มการจัดเก็บรายได้ภาครัฐ เตรียมรับมือการใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น
– ธนาคารโลก เผยการท่องเที่ยวและการส่งออก ช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวในปี 2567 – พร้อมได้ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG1 ขจัดความยากจน
– (1.3) ดำเนินการให้ทุกคนมีระบบและมาตรการการคุ้มครองทางสังคมในระดับประเทศที่เหมาะสม รวมถึงการคุมครองทางสังคมขั้นพื้นฐานและบรรลุการครอบคลุมถึงกลุ่มที่ยากจนและเปราะบาง ภายในปี 2573
#SDG4 การศึกษาที่มีคุณภาพ
– (4.7) สร้างหลักประกันว่าผู้เรียนทุกคนได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมไปถึงการศึกษาสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการมีวิถีชีวิตที่ยั่งยืน สิทธิมนุษยชน ความเสมอภาคระหว่างเพศ การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความสงบสุขและไม่ใช้ความรุนแรง การเป็นพลเมืองของโลก และความชื่นชมในความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการที่วัฒนธรรมมีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายในปี 2573
#SDG8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
– (8.3) ส่งเสริมนโยบายที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่สนับสนุนกิจกรรมที่มีผลิตภาพ การสร้างงานที่มีคุณค่า ความเป็นผู้ประกอบการ ความสร้างสรรค์และนวัตกรรม และให้การสนับสนุนการรวมตัวและการเติบโตของวิสาหกิจรายย่อย ขนาดเล็ก และขนาดกลาง ผ่านการเข้าถึงบริการทางการเงิน
#SDG9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม
– (9.1) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ยั่งยืนและมีความต้านทานและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาคและที่ข้ามเขตแดน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์
#SDG11 เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน
– (11.3) ยกระดับการพัฒนาเมืองและขีดความสามารถให้ครอบคลุมและยั่งยืนเพื่อการวางแผนและการบริหารจัดการการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์อย่างมีส่วนร่วม บูรณาการและยั่งยืนในทุกประเทศ ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG13 การรับมือกับการเปลี่ยนเเปลงสภาพภูมิอากาศ
– (13.2) บูรณาการมาตรการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในนโยบาย ยุทธศาสตร์ และการวางแผนระดับชาติ
– (13.3) พัฒนาการศึกษา การสร้างความตระหนักรู้ และขีดความสามารถของมนุษย์และของสถาบันในเรื่องการลดผลกระทบและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเตือนภัยล่วงหน้า
#SDG16 ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง
– (16.6) พัฒนาสถาบันที่มีประสิทธิผล มีความรับผิดชอบ และโปร่งใสในทุกระดับ
แหล่งที่มา :
– ธนาคารโลกสรุป 5 ประเด็นสำคัญเพื่อปฏิรูปและพลิกฟื้นการเติบโตของประเทศไทย – worldbank
– Thailand Systematic Country Diagnostic Update 2024 Shifting gears: Toward sustainable growth and inclusive prosperity – worldbank
ผลงานนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภายใต้โครงการกลยุทธไตรพลังในการดำเนินการเพื่อสุขภาวะและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย