วันที่ 25 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2567 ตัวแทนรัฐบาลจาก 178 ประเทศ และภาคประชาสังคม เข้าร่วมประชุมของ “คณะกรรมการเจรจาระหว่างรัฐบาล (Intergovernmental Negotiating Committee: INC) ในการจัดทำมาตรการที่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศด้านมลพิษจากพลาสติก รวมทั้งสิ่งแวดล้อมทางทะเล” ครั้งที่ 5 หรือ INC-5 ณ เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ โดยหลายประเทศได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ความร่วมมือในการผลักดันให้เกิดสนธิสัญญาพลาสติกโลก แม้จะมีกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันซึ่งนำโดยซาอุดีอาระเบียส่งเสียงคัดค้านและแย้งว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลาค่อย ๆ คิดและพิจารณา
ประเด็นสำคัญจากการประชุมข้างต้น เช่น
- ที่ประชุมพิจารณา ‘สาระสำคัญของผู้นำการประชุม’ (Chair’s Text) เพื่อให้เกิดความเข้าใจและยอมรับที่ตรงกันในการตกลงเรื่องการจัดการขยะพลาสติก โดยเนื้อหามีทั้งสิ้น 32 มาตรา (article) ครอบคลุมประเด็นสำคัญ เช่น หลักการ การนิยามความหมายคำที่เกี่ยวข้อง ข้อกำหนดการออกแบบบรรจุภัณฑ์พลาสติก และสิทธิในการโหวต
- ผลการเจรจามีความคืบหน้า แต่ยังมีปัญหาบางประการที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ จึงอาจต้องขยายเวลาการเจรจาออกไปเป็น INC-5.2 ที่คาดการณ์ว่าน่าจะเกิดขึ้นกลางปีหน้า
- ประเทศที่เข้าร่วมการเจรจาครั้งนี้ ยังคงแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มประเทศผู้สนับสนุน “สนธิสัญญาอันทะเยอทะยาน” ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป รวมถึงอังกฤษ กลุ่มประเทศส่วนใหญ่ในทวีปแอฟริกา กลุ่มประเทศละตินอเมริกา และกลุ่มประเทศแคริบเบียน กับกลุ่มประเทศที่แสดงจุดยืนในเชิงขัดขวาง ซึ่งเรียกตนเองว่า “ประเทศที่มีความคิดเหมือนกัน” ประกอบด้วยกลุ่มประเทศอ่าวและกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน ที่มีซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน รัสเซีย รวมถึงอินเดีย
- จีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเดิมทีเอนเอียงไปในทางคัดค้านสนธิสัญญาแบบทะเยอทะยาน แต่ในการประชุมครั้งนี้ ทั้งสองประเทศมีท่าทีเอนเอียงที่จะยอมรับสนธิสัญญาแบบทะเยอทะยานมากขึ้น โดยเฉพาะจีนและอีกหลายประเทศ เช่น แคนาดา สิงคโปร์ เนปาล ภูฏาน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม ได้แถลงจุดยืนก่อนปิดการประชุมเมื่อคืนวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา ว่าประเทศของตนจะให้ความร่วมมือในการเจรจาครั้งต่อไป เพื่อให้เกิดสนธิสัญญาพลาสติกโลกฯ เพื่อปกป้องคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์
เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ ซึ่งเดินทางไปร่วมประชุมข้างต้น ให้ความเห็นว่าการประชุมเจรจาค่อนข้างล่าช้ากว่ากำหนด และระบุว่า “เรายอมรับว่าผิดหวังกับผลการเจรจาในรอบปูซานครั้งนี้ แต่ก็คาดอยู่เช่นกันว่า การเจรจาครั้งนี้น่าจะยังไม่สำเร็จ ในส่วนท่าทีของประเทศไทย ก่อนหน้านี้ก็ทราบมาว่า คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติในที่ประชุมเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เพื่อมอบหมายหน้าที่ต่อตัวแทนคณะเจรจาของไทยให้สนับสนุนสนธิสัญญาพลาสติกโลก แต่หากผลการเจรจาจะต้องไปให้ถึงการสนับสนุน “สนธิสัญญาอันทะเยอทะยาน” ตามที่มีหลายประเทศผลักดันอยู่ ประเทศไทยจะขอยกเว้นเรื่องการควบคุมปริมาณการผลิตพลาสติกลง ซึ่งรัฐบาลไทยและภาคเอกชนของไทยยังไม่เห็นด้วย”
นอกจากนี้ เพ็ญโฉม และตัวแทนภาคประชาสังคมจากประเทศไทยยังได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ชูป้าย “หยุดใช้สารเคมีอันตรายในพลาสติก Stop hazardous chemicals in plastic” บริเวณหน้าอาคารประชุมเจรจาฯ เพื่อแสดงออกถึงความต้องการให้ผู้นำและตัวแทนรัฐบาลประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุมแสดงความจริงใจที่จะจัดการกับวิกฤตด้านมลพิษจากพลาสติกอย่างจริงจัง และอยากให้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของมนุษย์ มากกว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ตามกรอบการทำงาน การประชุม INC-5 นับเป็นการประชุมเจรจาครั้งสุดท้ายของเรื่องนี้ โดยก่อนหน้ามีการประชุมจัดขึ้นที่ อุรุกวัย ฝรั่งเศส เคนยา และแคนาดา ตามลำดับ แต่ยังไม่อาจหาข้อสรุปที่ทุกฝ่ายพึงพอใจร่วมกันได้ การมีมาตรการจัดการขยะและสารเคมีในขยะระดับโลกจึงอาจต้องล่าช้าออกไปอย่างน่ากังวล
● อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
– SDG Insights | ขยะพลาสติกในทะเล: ความพยายามของภูมิภาคอาเซียน
– ผลกระทบของขยะพลาสติกในมหาสมุทรที่มีต่อสุขภาพของคน: การศึกษาที่อาจยังขาดหายไป
– NextWave Plastics จับมือคู่แข่งทางธุรกิจ สร้างเครือข่ายระดับโลกแห่งแรกที่ปฏิรูปห่วงโซ่อุปทานเพื่อลดขยะพลาสติกในมหาสมุทร
– โคคา-โคล่า ร่วมมือกับ The Ocean Cleanup เดินหน้าใช้นวัตกรรมดักจับขยะพลาสติกในแม่น้ำ 15 แห่งทั่วโลกก่อนไหลลงสู่มหาสมุทร
– 75% ของพลาสติกที่รีไซเคิลได้ กลายเป็นขยะ คือ ‘โอกาสทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้ฉกฉวย’ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
– SDG Updates | แบนพลาสติกเพิ่ม: แนวโน้มความสำเร็จหรือล้มเหลว? ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจริงหรือ? และใครบ้างต้องปรับตัว?
– EJF ชวนจับตา ‘ข้อตกลงพลาสติกโลก ครั้งที่ 3’ พร้อมให้ข้อเสนอแนะต่อคณะผู้แทนรัฐบาลไทย เพื่อยุติมลพิษพลาสติกอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG11 เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน
– (11.6) ลดผลกระทบทางลบของเมืองต่อสิ่งแวดล้อมต่อหัวประชากรรวมถึงการให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศและการจัดการขยะมูลฝอย และของเสียอื่นๆ ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG12 การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
– (12.5) ลดการเกิดของเสียโดยให้มีการป้องกัน การลดปริมาณ การใช้ซ้ำ และการนำกลับมาใช้ใหม่ ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG14 ทรัพยากรทางทะเล
– (14.1) ป้องกันและลดมลพิษทางทะเลทุกประเภทอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจากกิจกรรมบนแผ่นดิน รวมถึงขยะในทะเลและมลพิษจากธาตุอาหาร (nutrient pollution) ภายในปี พ.ศ. 2568
#SDG17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
– (17.14) ยกระดับความสอดคล้องเชิงนโยบายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
– (17.16) ยกระดับหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยร่วมเติมเต็มโดยหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายซึ่งจะระดมและแบ่งปันความรู้ ความเชี่ยวชาญเทคโนโลยี และทรัพยากรทางการเงิน เพื่อจะสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกประเทศ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา
แหล่งที่มา
– Intergovernmental Negotiating Committee on Plastic Pollution (UNEP)
– ปูซาน เกาหลีใต้, 2 ธันวาคม 2567: การประชุมของ “คณะกรรมการเจรจาระหว่างรัฐบาล (มูลนิธิบูรณะนิเวศ)