Site icon SDG Move

ประมงพื้นบ้าน เคลื่อนไหวคัดค้านการแก้มาตร 69 พ.ร.บ. ประมง หวัง สว. ตั้งกรรมการทบทวน ไม่เอาอวนตาถี่

วันที่ 4 มกราคม 2568 ปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าประมงพื้นบ้านไทยกำลังจะรวมตัวเพื่อเคลื่อนไหวให้มีการทบทวนและยกเลิกมาตรา 69 ของร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558   ที่อนุญาตให้ใช้อวนล้อมจับตาถี่ในเวลากลางคืน โดยวันที่ 8 มกราคม จะเดินทางเข้าพบ สมาชิกวุฒิสภา เพื่อทำความเข้าใจ และเรียกร้อง สว. ตั้งกรรมาธิการร่วม พิจารณาทบทวนมาตราดังกล่าว และวันที่ 13 มกราคม สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย จะเคลื่อนไหวใหญ่ ปักหลักหน้าสภาผู้แทนราษฎร เพื่อติดตามและสื่อสารไปยังวุฒิสภา สังคม และสส. ที่โหวตผ่านให้ทบทวนบทบาทตนเอง ว่าจะอยู่บนผลประโยชน์ของชาติ ผลประโยชน์ประชาชนที่แท้จริง จะต้องยึดโยงกับหลักการสำคัญในการปกป้องทรัพยากรทางทะเลเพื่อคนทั้งประเทศหรือไม่

ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 เพิ่งได้รับลงมติเห็นชอบมาตรา 23 ในร่างกฎหมายประมงฉบับใหม่ซึ่งเป็นการแก้ไขมาตรา 69 ใน พ.ร.ก. ประมง 2558 ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 239 ไม่เห็นด้วย 28 งดออกเสียง 114 ไม่ลงคะแนนเสียง 2 จากจำนวนผู้ลงมติ 383 คน จากเดิมที่ห้ามมิให้ผู้ใดใช้เครื่องมืออวนล้อมจับ ที่มีช่องตาอวนเล็กกว่าสองจุดห้าเซนติเมตร ทำการประมงในเวลากลางคืน ก็จะถูกแก้เป็นอนุญาตให้ใช้อวนตาถี่น้อยกว่า 2.5 เซนติเมตร ล้อมจับสัตว์น้ำในตอนกลางคืนในระยะมากกว่า 12 ไมล์ทะเลได้

ปิยะ อธิบายถึงความกังวลว่า “การให้ทำการประมงด้วยอวนล้อมจับที่มีช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตรในเวลากลางคืน ในทางปฏิบัติคือการใช้ประกอบกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าปั่นไฟล่อสัตว์น้ำขนาดเล็กและสัตว์น้ำเศรษฐกิจวัยอ่อน ที่อ้างว่าจำเป็นต้องใช้ตาอวนขนาดนี้ก็เพื่อจับปลากะตัก แต่การทำประมงด้วยช่องตาอวนเช่นนี้ไม่ว่าจะใช้ในพื้นที่ใดในเวลากลางคืนล้วนเป็นการประมงทำลายพันธ์สัตว์น้ำเศรษฐกิจ ตัดตอนการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำวัยอ่อนก่อนวัยอันควร และทำลายห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศอย่างร้ายแรงซึ่งปรากฏข้อมูลทางวิชาการแล้วว่าการใช้อวนล้อมจับสัตว์น้ำในเวลากลางคืนจะมีลูกสัตว์น้ำติดมาราว 50% มากกว่าในตอนกลางวันที่จะติดมาเพียง 7% เท่านั้น”

การต่อต้านของกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านยังคงมีความหวัง เพราะร่าง พ.ร.บ. ข้างต้น ยังต้องส่งให้ สว. พิจารณาต่อไป

● อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
– Global Tuna Alliance ย้ำความร่วมมือและวิสัยทัศน์ที่รับผิดชอบร่วมกันจะทำให้ทะเลไม่บอบช้ำและมีทูน่าพอสำหรับโลก
– Parties to the Nauru Agreement (PNA) – ข้อตกลงของแปดประเทศเกาะในแปซิฟิกเพื่อการประมงทูน่าที่ยั่งยืน
– SDG Recommends | เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเรากับทะเลและมหาสมุทรมากขึ้นผ่าน Ocean Literacy
– อินโดนีเซียประเมินประชากรสัตว์น้ำเชิงพาณิชย์ในเขตประมงทั่วประเทศ เพื่อวางแผนการประมงและอนุรักษ์สัตว์น้ำได้ยั่งยืนขึ้น
– จังหวัดปาปัวตะวันตกคงความอุดมสมบูรณ์ทางทะเลได้ดีขึ้น เพราะการกำหนดพื้นที่คุ้มครองและบทบาทนำของชุมชนรอบชายฝั่ง 
– ชาวประมงพื้นบ้านล่องเรือจากปัตตานีถึง กทม. ติด #ทวงน้ำพริกปลาทู เรียกร้องทุกภาคส่วนหยุดจับ-ซื้อ-ขาย สัตว์น้ำวัยอ่อน

ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG14 ทรัพยากรทางทะเล
– (14.2) บริหารจัดการและปกป้องระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบที่มีนัยสำคัญ รวมถึงโดยการเสริมภูมิต้านทานและปฏิบัติการเพื่อฟื้นฟู เพื่อบรรลุการมีมหาสมุทรที่มีสุขภาพดีและมีผลิตภาพ ภายในปี 2563
– (14.4) ภายในปี 2563 ให้กำกับในเรื่องการเก็บเกี่ยวและยุติการทำประมงเกินขีดจำกัด การประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม และแนวปฏิบัติด้านการประมงที่เป็นไปในทางทำลายอย่างมีประสิทธิภาพและดำเนินการให้เป็นไปตามแผนการบริหารจัดการที่อยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อจะฟื้นฟูมวลสัตว์น้ำ (fish stock) ในเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างน้อยที่สุดในระดับที่สามารถไปถึงระดับผลผลิตการประมงสูงสุดที่ยั่งยืน (maximum sustainable yield) ตามคุณลักษณะทางชีววิทยาของสัตว์น้ำเหล่านั้น
#SDG16 สังคมสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง
– (16.7) สร้างหลักประกันว่าจะมีกระบวนการตัดสินใจที่มีความรับผิดชอบ ครอบคลุม มีส่วนร่วม และมีความเป็นตัวแทนที่ดี ในทุกระดับการตัดสินใจ

แหล่งที่มา
‘ประมงพื้นบ้าน’ นัดเคลื่อนไหวใหญ่ 13 ม.ค. นี้ (The Active)
สภาผ่านแก้กฎหมายประมง ม.69 ประมงพื้นบ้านรวมตัวค้าน ปชน. ดันออกแบบกติกาให้เหมาะพื้นที่ (ประชาไท)

Author

  • Knowledge Communication | สนใจประเด็นสันติภาพ ความมั่นคงมนุษย์ เเละสิ่งเเวดล้อมทางทะเล ใช้ชีวิตโดยเชื่อในสมดุลมากกว่าความสมบูรณ์เเบบ

Exit mobile version