ความตึงเครียดจากสงคราม เป็นภัยคุกคามต่อระบบสังคมและเศรฐกิจของโลก ณ ปัจจุบันเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) เผยแพร่ รายงานความเสี่ยงโลกประจำปี 2568 (Global Risks Report 2025) ได้ระบุถึง ความเสี่ยงจากเหตุการณ์สภาพภูมิอากาศสุดขั้วในทศวรรษหน้า และสงครามความขัดแย้งทางอาวุธระหว่างรัฐส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันประเด็นข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือน ยังคงครองตำแหน่งอันดับ 1 เป็นปีที่สองในกลุ่มความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในระยะสั้นที่จะเกิดขึ้น
รายงานความเสี่ยงโลกประจำปี 2568 นำเสนอผลจากการเก็บข้อมูลผ่านการสำรวจ Global Risks Perception Survey (GRPS) ปี 2567 – 2568 ได้สำรวจความเห็นข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 900 รายทั่วโลกในหลากหลายสาขารวมถึงผู้กำหนดนโยบายและผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีต่อความเสี่ยงโลกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น (2 ปี) และความเสี่ยงที่มีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นในระยะยาว (10 ปี) และเพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงโลก World Economic Forum ได้วิเคราะห์แนวโน้มความเสี่ยงผ่าน 5 มิติ ประกอบด้วย มิติเศรษฐกิจ (economic) มิติสังคม (societal) มิติสิ่งแวดล้อม (environmental) มิติภูมิรัฐศาสตร์ (geopolitical) และมิติเทคโนโลยี (technological)
เนื้อหารายงานการสำรวจในปี 2567 – 2568 มีประเด็นสำคัญโดยสรุป ดังนี้
- ความเสี่ยงมิติเทคโนโลยี “ข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือน” (Misinformation and Disinformation) ยังคงครองเป็นอันดับ 1 เป็นปีที่สองติดต่อกัน ที่มีโอกาสเกิดความเสี่ยงรุนแรงที่สุดในอีก 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากการการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือนที่มีหลายรูปแบบและรวดเร็วยิ่งขึ้น อาจสร้างความเข้าใจผิดในวงกว้าง อีกทั้งยังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแทรกแซงการเลือกตั้งในหลายประเทศ รวมถึงสามารถสร้างความไม่ไว้วางใจให้แก่ประชาชนทั่วโลกต่อสถานการณ์ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง
- ความเสี่ยงมิติสิ่งแวดล้อม ถูกจัดอันดับเป็นความเสี่ยงโลกที่มีแนวโน้มจะรุนแรงในระยะยาว อีก 10 ปีข้างหน้า ถึง 5 อันดับ จาก 10 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1 ความเสี่ยงจากเหตุการณ์สภาพภูมิอากาศสุดขั้ว อันดับ 2 ความเสี่ยงจากการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและการล่มสลายของระบบนิเวศ (biodiversity loss and ecosystem collapse) อันดับ 3 การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อระบบโลก (critical change to Earth systems) อันดับ 4 การขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ และ อันดับ 10 มลพิษในอากาศ น้ำ ดิน
- ในปีนี้ แม้ว่าประเด็นมิติเศรษฐกิจ ไม่ได้ถูกจัดอันดับเป็นความเสี่ยงหลัก แต่ในมิติภูมิรัฐศาสตร์ประเด็นการเผชิญหน้าทางภูมิเศรษฐศาสตร์ (geoeconomic confrontation) ยังเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ โดยสะท้อนได้จากการจัดอันดับความเสี่ยงรุนแรงในอีก 2 ปี จากอันดับที่ 14 ในปีที่ผ่านมาขึ้นเป็นอันดับ 9 ในปีนี้ แสดงถึงความกังวลเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ประเด็น “ความขัดแย้งทางอาวุธระหว่างรัฐ” (state-based armed conflict) ได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 3 ของความเสี่ยงระยะสั้น เนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซีย – ยูเครน ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และสถานการณ์รุนแรงในซูดาน ซึ่งล้วนสร้างผลกระทบต่อความมั่นคงโลก
- ความเสี่ยงมิติสังคม อย่างการแบ่งแยกทางสังคม (societal polarization) ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 4 ในประเด็นความเสี่ยงที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเปราะบางในสังคมและทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการแบ่งแยกมากขึ้น
รายงานระบุว่าความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นประเด็นเดิมจากปีก่อน แต่มีการปรับอันดับใหม่ สะท้อนถึงความน่ากังวลที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ และสังคมมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้นจากปัญหาระหว่างประเทศ นอกจากนี้ เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตและสังคมมากขึ้น ทำให้การแก้ไขปัญหาความเสี่ยงโลกจำเป็นต้องชัดเจนและยั่งยืนในระยะยาว
● อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
– World Economic Forum เผยเหตุการณ์ ‘สภาพภูมิอากาศสุดขั้ว’ ติดอันดับหนึ่ง ความเสี่ยงโลกในทศวรรษหน้า
– World Economic Forum เผยเเพร่รายงานความเสี่ยงโลกประจำปี 2566 ชี้วิกฤตค่าครองชีพมีความเสี่ยงอันดับหนึ่ง
– SDG Updates | เปิดรายงานความเสี่ยง 2020 – โลกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
– SDG Updates | เมื่อความเสี่ยงหลักของทศวรรษคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ – สรุปประเด็นสำคัญในรายงาน Global Risks Report 2022
– SDG Updates | เสริมภูมิคุ้มกันให้ประเทศไทย ผ่านกลไกการประกันและการเงินเพื่อการบริหารความเสี่ยง
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG1 ขจัดความยากจน
– (1.3) ดำเนินการให้ทุกคนมีระบบและมาตรการการคุ้มครองทางสังคมในระดับประเทศที่เหมาะสม รวมถึงการคุมครองทางสังคมขั้นพื้นฐานและบรรลุการครอบคลุมถึงกลุ่มที่ยากจนและเปราะบาง ภายในปี 2573
– (1.5) ภายในปี 2573 สร้างภูมิต้านทานให้แก่คนยากจนและคนที่อยู่ในสถานการณ์เปราะบางและลดการเผชิญหน้าและความเสี่ยงต่อเหตุการณ์รุนแรง/ภัยพิบัติอันเนื่องมาจากภูมิอากาศ เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม
#SDG13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
– (13.1) เสริมภูมิต้านทานและขีดความสามารถในการปรับตัวต่ออันตรายและภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับภูมิอากาศในทุกประเทศ
– (13.2) บูรณาการมาตรการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในนโยบาย ยุทธศาสตร์ และการวางแผนระดับชาติ
– (13.b) ส่งเสริมกลไกที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการวางแผนและการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีประสิทธิผลในประเทศพัฒนาน้อยที่สุด และให้ความสำคัญต่อผู้หญิง เยาวชน และชุมชนท้องถิ่นและชายขอบ
#SDG15 ระบบนิเวศบนบก
– (15.1) สร้างหลักประกันว่าจะมีการอนุรักษ์ การฟื้นฟู และการใช้ระบบนิเวศบนบกและในน้ำจืดในแผ่นดินรวมทั้งบริการทางระบบนิเวศอย่างยั่งยืน เฉพาะอย่างยิ่ง ป่าไม้ พื้นที่ชุ่มน้ำ ภูเขา และเขตแห้งแล้ง โดยเป็นไปตามข้อบังคับภายใต้ความตกลงระหว่างประเทศ ภายในปี 2563
#SDG16 ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง
– (16.a) เสริมความแข็งแกร่งของสถาบันระดับชาติที่เกี่ยวข้อง โดยรวมถึงการกระทำผ่านทางความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อสร้างขีดความสามารถในทุกระดับ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อจะป้องกันความรุนแรงและต่อสู้กับการก่อการร้ายและอาชญากรรม
#SDG17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
แหล่งที่มา: Global Risks Report 2025 (World Economic Forum)