วันที่ 14 มกราคม 2568 องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the UN: FAO) เผยแพร่รายงาน “The Food Systems Countdown Report 2024: Tracking Progress and Managing Interactions” ซึ่งได้วิเคราะห์และติดตามความก้าวหน้าของการปฏิรูประบบอาหาร
รายงานข้างต้นเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง FAO กับมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย มหาวิทยาลัยคอร์เนล และ Global Alliance for Improved Nutrition (GAIN) โดยนำเสนอประเด็นที่สำคัญ เช่น
- ดัชนีชี้วัดระบบอาหารจากทั้งหมด 42 ตัวชี้วัด พบว่ามี 20 ตัวชี้วัดที่มีแนวโน้มโดยเฉลี่ยทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และ 7 ตัวชี้วัด มีแนวโน้มโดยเฉลี่ยทั่วโลกในทิศทางที่แย่ลง เช่น ความผันผวนของราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น ความรับผิดรับชอบของภาครัฐที่ลดน้อยถอยลง ขณะที่อีก 15 ตัวชี้วัด ไม่พบสัญญาณการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เช่น การลดก๊าซเรือนกระจกในระบบอาหาร
- ดัชนีชี้วัดในส่วนของ “Countdown Indicators” ที่มีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น เช่น การเข้าถึงน้ำที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในทุกภูมิภาคทั่วโลก และการใช้ไนโตรเจนในระบบการผลิตของแต่ละภูมิภาคมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
- การปรับปรุงเป้าหมายในส่วนระบบอภิบาล (governance) และการตั้งรับปรับตัว (resilience) สามารถกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในตัวบ่งชี้อื่น ๆ ซึ่งจะช่วยขยายความก้าวหน้าระดับโลก
ทั้งนี้ The Food System Countdown Initiative มีเป้าประสงค์สำคัญคือการติดตามสถานะการเปลี่ยนแปลงของระบบอาหารเพื่อช่วยให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจออกแบบแนวทางที่สอดคล้องกับลำดับความสำคัญ สร้างแรงจูงใจในการดำเนินการ และเรียกร้องความรับรับผิดชอบจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยกำหนดประเด็นติดตาม 5 ประเด็น ได้แก่ อาหาร โภชนาการ และสุขภาพ (diet, nutrition, and health) สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และการผลิต (environment, natural resources, and production) การดำรงชีวิต ความยากจน และความเสมอภาค (livelihood, poverty, and equity) ระบบอภิบาล (governance) และการตั้งรับปรับตัว (resilience)
● อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
– เด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปี กว่า 1 ใน 10 คน กำลังเผชิญความยากจนทางอาหารขั้นรุนแรง ยูนิเซฟชี้ทุกภาคส่วนต้องช่วยให้เด็กเข้าถึงอาหารมากขึ้น
– รายงานวิกฤตการณ์อาหารโลกปี 2567 เผยโลกเผชิญกับ ‘ความไม่มั่นคงทางอาหาร’ เหตุจากความขัดแย้ง – สภาพอากาศสุดขั้ว – เศรษฐกิจย่ำแย่
– วิกฤตราคาอาหารพุ่งในศรีลังกา สู่ความโกรธาจากใจประชาชน
– เมื่อความหิวโหยจุดชนวนเหตุขัดแย้ง: Timeline ความล่มสลายทางเศรษฐกิจของประเทศศรีลังกา
– วิกฤติทางการเมืองในเมียนมาทำให้ประชากรอีก 3.4 ล้านคนต้องเผชิญกับ ‘ความหิวโหย’
– การปฏิรูประบบอาหารให้เป็นการผลิตและบริโภคอย่างยั่งยืน หัวใจที่ UN Food Systems Summit เรียกร้องให้ลงมือทำ
– SDG Updates | โลกไม่อาจยุติความหิวโหยได้ หากไม่สามารถยุติความขัดแย้ง และสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น
– SDG Updates | ‘อู่ข้าวอู่น้ำ’ มายาคติความมั่นคงทางอาหารของไทย : สำรวจสถานการณ์และความท้าทายที่เกิดขึ้น
– FAO เรียกร้องให้เพิ่มการลงทุน ‘ความมั่นคงทางอาหาร’ – พบผู้คนราว 733 ล้านคนทั่วโลกยังเผชิญกับความหิวโหย
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG1 ขจัดความยากจน
– (1.5) ภายในปี 2573 สร้างภูมิต้านทานให้แก่คนยากจนและคนที่อยู่ในสถานการณ์เปราะบางและลดการเผชิญหน้าและความเสี่ยงต่อเหตุการณ์รุนแรง/ภัยพิบัติอันเนื่องมาจากภูมิอากาศ เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม
#SDG2 ขจัดความหิวโหย
– (2.1) ยุติความหิวโหยและสร้างหลักประกันให้ทุกคนโดยเฉพาะคนที่ยากจนและอยู่ในภาวะเปราะบาง อันรวมถึงทารก ได้เข้าถึงอาหารที่ปลอดภัย มีอาหารตามหลักโภชนาการ และมีอาหารเพียงพอตลอดทั้งปี ภายในปี 2573
– (2.4) สร้างหลักประกันว่าจะมีระบบการผลิตอาหารที่ยั่งยืนและดำเนินการตามแนวปฏิบัติทางการเกษตรที่มีภูมิคุ้มกันที่จะเพิ่มผลิตภาพและการผลิต ซึ่งจะช่วยรักษาระบบนิเวศ เสริมขีดความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภาวะอากาศรุนแรง ภัยแล้ง อุทกภัย และภัยพิบัติอื่น ๆ และจะช่วยพัฒนาคุณภาพของดินและที่ดินอย่างต่อเนื่อง ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG6 น้ำสะอาดและการสุขาภิบาล
– (6.1) บรรลุเป้าหมายการให้ทุกคนเข้าถึงน้ำดื่มที่ปลอดภัยและมีราคาที่สามารถซื้อหาได้ ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
– (13.1) เสริมภูมิต้านทานและขีดความสามารถในการปรับตัวต่ออันตรายและภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับภูมิอากาศในทุกประเทศ
#SDG16 ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง
– (16.8) ขยายและเสริมความแข็งแกร่งของการมีส่วนร่วมของประเทศกำลังพัฒนาในสถาบันที่เกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาลโลก
แหล่งที่มา : 2024 Countdown Report Documents Progress in Food Systems Transformation (IISD)