SDG Updates | สรุปประเด็นสำคัญ รายงานความก้าวหน้า SDGs ของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ปี 2568

การประเมินความก้าวหน้าของการขับเคลื่อน SDGs ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก (The Economic and Social Commission for Asia and the Pacific: ESCAP) ได้เผยแพร่ “Asia and the Pacific SDG Progress Report 2025: Engaging communities to close the evidence gap” หรือ “รายงานความก้าวหน้าเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประจำปี 2568: การมีส่วนร่วมของชุมชนในการลดช่องว่างด้านข้อมูลหลักฐาน” อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นรายงานฉบับที่ 8 นับตั้งแต่เริ่มจัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกในปี 2017 โดยนำเสนอผลการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก พร้อมเน้นย้ำว่าความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมาย SDGs ส่วนใหญ่ยังคงเป็นไปอย่างเชื่องช้าหรือหยุดชะงัก แม้มีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายภายในปี 2030 

SDG Updates ฉบับนี้ สรุปข้อค้นพบสำคัญจากรายงาน “Asia and the Pacific SDG Progress Report 2025″ เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มและความท้าทายของ SDGs ในภูมิภาค พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับปรุงคุณภาพข้อมูลและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการลดช่องว่างด้านหลักฐานเพื่อให้การพัฒนามีความครอบคลุมและยั่งยืนอย่างแท้จริง


01 – ภาพรวมความก้าวหน้าของ SDGs ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก

รายงานฉบับปี 2025 ส่วนของการประเมินระดับเป้าหมาย (Goals) แสดงให้เห็นว่าภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก มีความก้าวหน้าที่โดดเด่นในเป้าหมายที่ 9 ด้านอุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน และเป้าหมายที่ 3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี โดยปัจจัยที่ขับเคลื่อนความก้าวหน้าอย่างเด่นชัด คือการขยายการเข้าถึงของเครือข่ายมือถือและการยกระดับด้านสุขภาพของมารดา ทารก และเด็ก นอกเหนือจากสองเป้าหมายดังกล่าว เป้าหมายที่ 1 ขจัดความยากจนก็มีความก้าวหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลจากการลดอัตราความยากจนด้านรายได้ ขณะที่ เป้าหมายที่ 2 ขจัดความหิวโหย มีความก้าวหน้าอย่างโดดเด่นในการแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลายเป้าหมายจะมีพัฒนาการที่ดี แต่อีกหลายเป้าหมายยังคงมีความก้าวหน้าที่เชื่องช้าและอาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ทัน ภายในปี 2030

A graph with different colored bars

AI-generated content may be incorrect.

ในทางกลับกันเป้าหมายที่มีแนวโน้มถดถอย (regression) จนน่าเป็นห่วง คือ เป้าหมายที่ 13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แม้ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกจะมีความก้าวหน้าในการพัฒนาแนวทางและแผนระดับชาติเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Disaster risk reduction: DRR) แต่ก็ยังคงเผชิญกับผลกระทบจากภัยพิบัติอย่างรุนแรง นอกจากนี้ ภูมิภาคนี้ยังเป็นหนึ่งในแหล่งปล่อยมลพิษรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gases :GHG) ทั่วโลก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ความก้าวหน้าในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศถดถอยลงอย่างน่าตกใจ อีกทั้งยังมีอีกหลายเป้าหมายที่มีความคืบหน้าอย่างล่าช้าในการบรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 12 การบริโภคและการผลิตอย่างรับผิดชอบ เป้าหมายที่ 4 การศึกษาที่มีคุณภาพ และเป้าหมายที่ 8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความคืบหน้าในหลายเป้าหมายยังล่าช้า ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของเงินอุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ผลลัพธ์ทางการเรียนที่ต่ำ เช่น ความสามารถในการอ่านและคณิตศาสตร์ที่ยังไม่ดีพอ ส่งผลให้ความก้าวหน้าในเป้าหมายที่ 4 เป็นไปอย่างล่าช้า ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาตัวชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อม เช่น สัดส่วนของการประมงที่ยั่งยืนต่อ GDP และ อัตราการเสื่อมโทรมของที่ดิน แสดงให้เห็นแนวโน้มถดถอย ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในเป้าหมายที่ 14 ทรัพยากรทางทะเล และ เป้าหมายที่ 15 ระบบนิเวศบนบก

เมื่อพิจารณาด้านข้อมูลรายงานภูมิภาคนี้มีข้อมูลรายงานสถานการณ์ระดับเป้าหมายย่อย (targets) ที่เพียงพอสามารถนำมาประเมินได้ 117 เป้าหมายย่อย จากทั้งหมด 169 เป้าหมายย่อย โดยยังขาดข้อมูลที่เพียงพออีก 52 เป้าหมายย่อย ซึ่งในจำนวนเป้าหมายย่อยที่วัดได้ มีเพียง 14% หรือ 16 เป้าหมายย่อยเท่านั้นที่มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุได้ทันภายในปี 2030 (สีเขียวในภาพด้านบน) ขณะที่เป้าหมายที่มีข้อมูลเพียงพอนำมาประเมินได้ที่เหลือ 71% หรือ 83 เป้าหมายย่อย จำเป็นต้องมีความก้าวหน้าอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรลุเป้าหมาย ภายในปี 2030  (แสดงเป็นสีเหลือง) และอีก 15% หรือ 18 เป้าหมายย่อยมีแนวโน้มสวนทางการพัฒนาหรือถดถอย (reverse trend) (สีแดงในภาพด้านบน) โดยครึ่งหนึ่งของเป้าหมายเหล่านี้เกี่ยวข้องกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ รวมถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่น่ากังวล

ในระดับตัวชี้วัด (indicator) บนฐานข้อมูล Asia-Pacific SDG Gateway แสดงผลการประเมินแนวโน้มของตัวชี้วัดที่มีแนวโน้มเดินถอยหลังพบว่ามีถึง 33 ตัวชี้วัด โดยในจำนวนนี้ เป้าหมายที่มีตัวชี้วัดถดถอยมากที่สุดคือ เป้าหมายที่ 8 (งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ) ซึ่งมี 6 ตัวชี้วัดที่มีสถานะถดถอยในเป้าหมายนี้

| เปรียบเทียบการดำเนินงานของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกับโลก

เอเชีย-แปซิฟิกในฐานะภูมิภาคที่มีประชากรมากที่สุดในโลกและเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับโลก ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก จึงมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางบวกหรือลบ ภูมิภาคนี้ย่อมส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อโลก แม้ว่าภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกจะมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าหลายส่วนอื่น ๆ ของโลกในหลายเป้าหมาย แต่ยังคงถดถอยในบางเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคนี้แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งที่โดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับความก้าวหน้าโดยเฉลี่ยของส่วนอื่น ๆ ของโลกในหลายเป้าหมาย

ตัวอย่างเช่น ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเป็นผู้นำด้านความก้าวหน้าในเป้าหมายที่ 1 โดยเฉพาะการลดความยากจนด้านรายได้ เป้าหมายที่ 2 จากความก้าวหน้าในการลดความชุกของภาวะทุพโภชนาการ เป้าหมายที่ 9 เพิ่มปริมาณผู้โดยสารและสินค้าที่ขนส่ง รวมถึงสนับสนุนอุตสาหกรรมขนาดเล็กด้วยสินเชื่อ หรือมีวงเงินที่ธนาคารให้กู้ยืม เป้าหมายที่ 12 ลดปริมาณของเสียอันตรายที่เกิดขึ้น เป้าหมายที่ 15 การเสื่อมโทรมของที่ดินที่ลดลง และเป้าหมายที่ 16 ลดจำนวนเหยื่อการค้ามนุษย์และการฆาตกรรมโดยเจตนาที่ตรวจพบ

ขณะเดียวกัน ภูมิภาคนี้ยังคงล้าหลังอย่างมากใน 4 เป้าหมายจากการวิเคราะห์ตัวชี้วัดบนฐานข้อมูล Asia-Pacific SDG Gateway อธิบายได้ดังนี้

  • เป้าหมายที่ 8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีแนวโน้มเชิงลบ เช่น ในตัวชี้วัดที่ 8.4.1 ซึ่งเกี่ยวข้องกับปริมาณการใช้ทรัพยากรหรือร่องรอยการใช้วัตถุดิบ (Material Footprint: MF) และตัวชี้วัดที่ 8.8.1 อัตราการบาดเจ็บร้ายแรงจากการทำงาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งความก้าวหน้าของภูมิภาคนี้
  • เป้าหมายที่ 13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตัวชี้วัดที่ 13.2.2 ภูมิภาคนี้ยังคงมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) เพิ่มขึ้นในขณะที่ระดับโลกมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย
  • เป้าหมายที่ 14 ทรัพยากรทางทะเล ตัวชี้วัดที่ 14.7.1 ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการประมงที่ยั่งยืนแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มถดถอยที่รุนแรงเมื่อเทียบกับส่วนอื่น ๆ ของโลก
  • เป้าหมายที่ 17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ภูมิภาคนี้ยังเผชิญกับแนวโน้มถดถอยที่สำคัญในด้านทรัพยากรทางการเงินเพื่อพัฒนาสถิติ
A graph with numbers and a number of data

AI-generated content may be incorrect.

นอกจากนี้ รายงานยังได้กล่าวถึงความพร้อมของข้อมูลที่สามารถนำมาใช้ของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกแสดงให้เห็นแนวโน้มที่เชื่องช้าแต่เป็นไปในทางที่ดีขึ้น โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 54% ของตัวชี้วัดที่มีจุดข้อมูลอย่างน้อยสองจุดในปี 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า โดยที่น่าสนใจคือ ภูมิภาคนี้แซงหน้าภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกอยู่ที่ 6% แต่ยังคงมีช่องว่างของข้อมูลในมิติการแยกย่อยที่สำคัญ เช่น อายุ สถานะการย้ายถิ่น ความทุพพลภาพ เพศ และพื้นที่ (เมือง/ชนบท)


02 – ข้อมูลที่หลากหลายและครอบคลุมจะช่วยลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ

ความครอบคลุม (inclusive) และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (no one left behind) เป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยเฉพาะการช่วยลดความเหลื่อมล้ำ หนึ่งในประเด็นสำคัญที่รายงานความก้าวหน้า SDGs ปีนี้ เน้นย้ำจึงเป็นการฉายภาพให้เห็นถึงประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลระดับบุคคลและครัวเรือนที่ครอบคลุมซึ่งช่วยให้ระบุกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะหลุดออกจากการรับรู้และการพัฒนาได้ โดยปัจจุบันพบว่ายังมีช่องว่างของข้อมูลอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้กลุ่มเปราะบางตกการสำรวจและไม่ถูกบันทึกในทางสถิติอย่างรอบด้านและข้อมูลที่แสดงจำนวนมากก็อาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง

รายงานนำเสนอข้อมูลที่วิเคราะห์ใน 30 ประเทศทั่วเอเชีย-แปซิฟิก โดยแบ่งประชากรออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ เด็ก ผู้ใหญ่ และครัวเรือน ได้ผลการศึกษาที่น่าสนใจ เช่น

  • ความยากจนเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อความไม่เท่าเทียมกันของโอกาส รองลงมาคือระดับการศึกษา โดยทั้งสองปัจจัยนี้อาจทับซ้อนกับปัจจัยเรื่องเพศ อายุ และที่ตั้งของที่อยู่อาศัย ซึ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำรุนแรงมากขึ้น เช่น ครัวเรือนที่ยากจนในชนบทและมีการศึกษาต่ำเป็นกลุ่มที่เข้าถึงน้ำดื่มได้ยากกว่า
  • ภาวะทุพโภชนาการของเด็กชายจากครัวเรือนที่ยากจนและมีพี่น้องอย่างน้อยหนึ่งคน มีอัตราแคระเกร็นและผอมแห้งสูงที่สุด ขณะที่เด็กชายจากครัวเรือนที่อาศัยในเมืองและไม่มีพี่น้องเป็นกลุ่มที่มีภาวะน้ำหนักเกินมากที่สุด
  • ผู้หญิงจากครัวเรือนที่ยากจนไม่ว่าอาศัยในเมืองหรือชนบทล้วนต้องเผชิญความท้าทายในการสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา
  • ในการสำรวจและบันทึกข้อมูล ควรแยกตัวบ่งชี้ SDGs ตามปัจจัยต่าง ๆ โดยคำนึงถึงความเชื่อมโยงของสถานการณ์ที่หลากหลายแทนที่การพิจารณาแค่สถานการณ์หรือปัญหาใดปัญหาหนึ่ง

นอกจากนี้ รายงานยังนำเสนอกรณีศึกษา โครงการ หรือกิจกรรมที่ขับเคลื่อนเพื่อสร้างความครอบคลุมในการพัฒนาแก่คนทุกกลุ่มและส่งเสริมให้ภาคส่วนที่หลากหลาย โดยเฉพาะท้องถิ่นและกลุ่มเปราะบางให้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจและการจัดทำข้อมูลเพื่อช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายตอบสนองต่อความต้องการของพวกเขาได้อย่างครอบคลุม โดยโครงการเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น

โครงการ Empowering communities in Viet Nam for real-time disaster preparedness and response
เป็นโครงการที่เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือ Viet Nam Disaster and Dyke Management Authority (VDDMA) กับยูนิเซฟ ประเทศเวียดนาม ซึ่งใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชันของโทรศัพท์มือถือสำหรับสร้างความเข้มแข็งแก่การเตรียมพร้อมและตอบสนองต่อภัยพิบัติ โดยได้พัฒนามินิแอปพลิเคชัน (mini-application) ที่เฉพาะ เพื่อกระจายประกาศหรือรายงานข่าวเกี่ยวกับภัยพิบัติ การพยากรณ์ และการอัปเดตข้อมูลตามเวลาจริง (real time) ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้อย่างกว้างขวาง รวมถึงครูและผู้ปกครองเพื่อให้รับมือและตอบสนองได้ทันท่วงที

โครงการ Addressing climate change-induced displacement in Asia and Pacific
เมื่อกรกฎาคม ปี 2567 องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration: IOM) ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เผยแพร่เครื่องมือที่ร่วมคิดร่วมสร้างภายใต้ความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์ 21 คน จาก University of the Philippines สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) และผู้เชี่ยวชาญจากที่อื่น ๆ โดยมุ่งเน้นไปที่การจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การย้ายถิ่นฐาน ความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ความเปราะบางทางสังคมเศรษฐกิจ และการตั้งรับปรับตัว

โครงการริเริ่มดังกล่าว ได้พัฒนากลไกนวัตกรรม 2 ส่วน ได้แก่ 1) The Risk Index for Climate Displacement (RICD) หรือ ‘ดัชนีความเสี่ยงสำหรับการโยกย้ายถิ่นฐาน‘ อันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นโมเดลสำหรับคาดการณ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยรัฐบาล ชุมชน และหุ้นส่วนต่าง ๆ ให้เข้าใจความเสี่ยงของการโยกย้ายถิ่นฐานในอนาคตที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ 2) The Climate Catalytic Fund (CCF) เป็นกองทุนเพื่อจัดหางบประมาณสนับสนุนภาครัฐ ภาคเอกชนระดับท้องถิ่น และภาคประชาสังคม สำหรับออกแบบและดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อจัดการช่องว่างที่ระบุโดย RICD ซึ่งปัจจุบันทั้งสองส่วนดำเนินการนำร่องในฟิจิ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

โครงการ Family-led monitoring of child wasting in Indonesia
ยูนิเซฟ ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข ประเทศอินโดนีเซีย แนะนำให้ครอบครัวใน 12 จังหวัดของอินโดนีเซียใช้ MUAC (mid-upper-arm-circumference) เป็นเครื่องมือสำคัญในระบบสุขภาพเพื่อระบุภาวะผอมแห้งในเด็ก ผลการตรวจจะถูกบันทึกไว้ในสมุดสีชมพูที่บันทึกบริการสุขภาพแม่และเด็ก (maternal and child health: MCH) และจะถูกรายงานไปยังศูนย์สาธารสุขมูลฐาน และผ่านเข้าไปเก็บในระบบข้อมูลโภชนาการระดับชาติ โดยโครงการนี้มีประโยชน์อย่างมากในการช่วยให้ผู้ดูแลเด็กสามารถใช้เครื่องมือ MUAC ติดตามสถานะทางโภชนาการของเด็กที่เลี้ยงดูได้จากที่บ้านและยังสามารถเข้าถึงการสนับสนุนสำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงผอมแห้งได้ผ่านบริการสุขภาพด่านหน้า

โครงการ Civil society led data collection on violence against women in Vanuatu
ในประเทศวานูอาตู พลังแห่งการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือของชุมชนเป็นแรงผลักดันในการขับเคลื่อนการรวบรวมข้อมูลเพื่อช่วยจัดการปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิง โดยโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง The Vanuatu Women’s Centre (VWC) และ The Vanuatu Bureau of Statistics (VBoS) มุ่งเน้นไปที่การสำรวจระดับชาติเกี่ยวกับความรุนแรงต่อผู้หญิง โดย VBoS ให้การสนับสนุนด้านเทคนิค ขณะที่ VWC รับผิดชอบเป็นผู้นำการพัฒนาและปรับใช้เครื่องมือการสำรวจและรวบข้อมูล


03 – สร้างระบบสถิติที่เข้มแข็งต้องอาศัย “ความเป็นผู้นำทางการเมือง – การระดมทุน – ความเป็นหุ้นส่วน”

เอเชีย-แปซิฟิก ยังคงเป็นภูมิภาคที่มีทิศทางก้าวหน้าอย่างช้า ๆ ในการผลิตข้อมูลสำหรับตัวชี้วัดของ SDGs โดยค่าเฉลี่ยของข้อมูลพร้อมใช้เพิ่มขึ้น 2 จุด จากปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 52% ขยับเป็น 54% ในปี 2567 และแม้ตัวชี้วัดกว่า 1 ใน 3 ยังขาดข้อมูลพร้อมใช้ในแต่ละประเทศ แต่ก็นับว่าก้าวหน้ากว่าส่วนอื่น ๆ ของโลก

รายงานเปิดเผยว่าตัวชี้วัดที่มีช่องว่างของข้อมูลอย่างมีนัยยะสำคัญ ได้แก่ SDG 5 (ความเท่าเทียมทางเพศ) SDG 16 (ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง) ขณะที่ตัวชี้วัดที่มีข้อมูลพร้อมใช้น้อยกว่าตัวชี้วัดอื่น ๆ ได้แก่ SDG 14 (ทรัพยากรทางทะเล) SDG 13 (การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) SDG 11 (เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน) ส่วนตัวชี้วัดที่มีข้อมูลพร้อมใช้สูง ได้แก่ SDG 7 (พลังงานสะอาดและเข้าถึงได้) และ SDG 15 (ระบบนิเวศบนบก)

นอกจากนี้ รายงานยังเรียกร้องให้ปฏิรูประบบระบบสถิติให้มีการทำงานและตอบสนองที่รวดเร็ว (agile) และครอบคลุม (inclusive) มากขึ้น ผ่านการให้หลักฐานหรือข้อมูลที่จำเป็นแก่การบรรลุ SDGs สำหรับทุกคนและทุกแห่งหน โดยจำเป็นต้องอาศัยความเข้มแข็งของความเป็นผู้นำทางการเมือง การระดมเงินทุน และการสร้างความเข้มแข็งแก่การเป็นหุ้นส่วน

ทั้งนี้ ความเป็นผู้นำทางการเมืองที่เข้มแข็ง จำเป็นต้องทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งในภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน เพื่อสร้างระบบสถิติที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุม ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการข้อมูลที่ซับซ้อนของสังคม ขณะที่การระดมทรัพยากร จำเป็นต้องอาศัยทั้งการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ โครงสร้างพื้นฐานสำหรับควบคุมเทคโนโลยีสารสนเทศและการใช้แหล่งข้อมูลใหม่ ๆ ส่วนการสร้างความเข้มแข็งในการเป็นหุ้นส่วน จำเป็นต้องให้ภาคส่วนที่หลากหลายมีส่วนร่วมในการออกแบบ การผลิต และใช้ข้อมูลสถิติ


04 – ความก้าวหน้า SDGs ของประเทศไทย

รายงาน ESCAP ยังได้มีการอัปเดตฐานข้อมูลความก้าวหน้าของแต่ละประเทศโดยละเอียดบนเว็บไซต์ Asia-Pacific SDG Gateway ระบุว่าสถานะของแต่ละประเทศในภูมิภาคโดยละเอียดซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าถึงหน้า National Analysis เพื่อศึกษาข้อมูลโดยละเอียดได้

การใช้สีแสดงผลประเมินความก้าวหน้าของแต่ละตัวชี้วัดของเป้าหมาย SDGs ผ่าน 3 ระดับ คือ
Performing (สีเขียว) = มีความก้าวหน้าในทางที่ดี
Stagnant (สีเหลือง) = มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย
Regressing (สีแดง) = อยู่ในระดับที่ถดถอย
Insufficient data (สีเทา) = ข้อมูลไม่เพียงพอ

ภาพรวมสถานะของประเทศไทยจากตัวชี้วัดที่วัดผลได้ ส่วนใหญ่นั้นเป็นสีเขียว คือมีระดับความก้าวหน้าในทางที่ดี ซึ่งจากผลประเมินความก้าวหน้าของแต่ละตัวชี้วัดของเป้าหมาย SDGs สถานะเป้าหมายที่มีความก้าวหน้าในทางที่ดี (สีเขียว) มากที่สุด คือ SDG 7 พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้ ทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่ ในตัวชี้วัด7.1.1 การเข้าถึงไฟฟ้า ตัวชี้วัด 7.1.2 การพึ่งพาพลังงานสะอาด ตัวชี้วัด 7.3.1 ความเข้มข้นของการใช้พลังงาน และตัวชี้วัด 7.b.1 กำลังการผลิตติดตั้งพลังงานหมุนเวียน

ขณะที่สถานะเป้าหมายที่อยู่ในระดับที่ถดถอย (สีแดง) มากที่สุด คือ SDG 8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยมีตัวชีวัดที่อยู่ในระดับที่ถดถอย ทั้งหมด 6 ตัว ได้แก่ ในตัวชี้วัด 8.1.1 อัตราการเติบโตต่อปีของผลติภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง (real GDP) ต่อหัวประชากร ตัวชี้วัด 8.2.1 อัตราการเติบโตของ GDP ที่แท้จริงต่อการจ้างงาน ตัวชี้วัด 8.5.2 อัตราการว่างงาน ตัวชี้วัด 8.8.2 ระดับการปฏิบัติตามสิทธิแรงงานในประเทศ ตัวชี้วัด 8.9.1 สัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศด้านการท่องเที่ยว และ ตัวชี้วัด 8.a.1 มูลค่าความช่วยเหลือเพื่อการค้า (Aid for Trade)

A graph of the country's population

AI-generated content may be incorrect.

ขณะที่ด้านข้อมูลความพร้อมใช้งานของตัวชี้วัด SDGs ตั้งแต่ปี  2558 ตามฐานข้อมูล SDG ระดับโลก พบว่าจากตัวชี้วัดทั้งหมด 248 ตัว ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีข้อมูลที่เพียงพอถึง 172 ตัวชี้วัด ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ในขณะเดียวกันมีตัวชี้วัด 33 ตัว ที่มีข้อมูลไม่เพียงพอ และอีก 40 ตัวชี้วัด ไม่มีข้อมูลเลย ส่วน 3 ตัวชี้วัด ไม่สามารถประเมินตัวชี้วัดดังกล่าวได้ ซึ่งรายงานฉบับนี้ได้ชี้ให้เห็นถึงช่องว่างของข้อมูล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและการติดตามความก้าวหน้าของ SDGs โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อกลุ่มชุมชนชายขอบที่อาจได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการขาดข้อมูลที่เพียงพอ

โดยสรุป รายงานฉบับนี้สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าเเละถดถอยของการดำเนินการขับเคลื่อน SDGs ทั้งระดับภูมิภาค ประเทศ จนถึงระดับโลก โดยระยะเวลาที่เหลืออีก 5 ปี นับจากนี้ ภาคส่วนต่าง ๆ จำเป็นต้องเร่งรัด ร่วมมือ เเละลงทุน เพื่อให้ภูมิภาคเเห่งนี้ขยับใกล้เป้าหมาย 2030 ที่กำหนดไว้ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะเป้าหมายที่น่าเป็นห่วง ทั้ง SDG 8 เเละ SDG 13 โดยอาจจำเป็นต้องมีกลไกการขับเคลื่อนข้ามภาคส่วนเเละระหว่างประเทศเข้ามาร่วมด้วย ที่สำคัญทุกประเทศควรมีการดำเนินงานอย่างจริงจังกับการเติมเต็มข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ SDGs ให้ครอบคลุมคนทุกกลุ่มเเละทุกเเห่งหน โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของกระบวนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

● เข้าถึงรายงาน “Asia and the Pacific SDG Progress Report” ประจำปี 2025 ฉบับสมบูรณ์ ได้ที่ SDG Progress Report 2025
● ดูข้อมูลในแบบชาร์ตข้อมูลที่ SDG Gateway

● อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
ESCAP รายงานความก้าวหน้า เอเชีย-แปซิฟิก ชี้อาจไม่บรรลุ SDGs ภายในปี 2030 ท่ามกลางปัญหา ‘สิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติ’
SDG Updates | สรุปประเด็นสำคัญ รายงานความก้าวหน้า SDGs ของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Asia-Pacific SDG Progress Report 2024)
SDG Updates | เปิดรายงานความก้าวหน้า SDGs ในเอเชียและแปซิฟิก ความมุ่งมั่นบรรลุทันในปี 2030 คงไกลเกินเอื้อม
‘รายงานความก้าวหน้า SDGs ในเอเชียและแปซิฟิกปี 2021’ ของ ESCAP ชี้ #SDG13 #SDG14 #SDG16 สามความก้าวหน้าที่เสื่อมถอยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
SDG Updates | เปิดรายงาน ESCAP เอเชีย-แปซิฟิกอาจไม่บรรลุ SDG ได้ในปี 2030

ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG1 ขจัดความยากจน
#SDG2 ขจัดความหิวโหย
#SDG3 สุขภาพเเละความเป็นอยู่ที่ดี
#SDG4 การศึกษาที่มีคุณภาพ
#SDG5 ความเท่าเทียมทางเพศ
#SDG6 น้ำสะอาดและการสุขาภิบาล
#SDG7 พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้
#SDG8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
#SDG9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม เเละอุตสาหกรรม
#SDG10 ลดความเหลื่อมล้ำ
#SDG11 เมืองเเละชุมชนที่ยั่งยืน
#SDG12 การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
#SDG13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
#SDG14 ทรัพยากรทางทะเล
#SDG15 ระบบนิเวศบนบก
#SDG16 สังคมสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง
#SDG17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

แพรวพรรณ ศิริเลิศ และอติรุจ ดือเระ – เรียบเรียง
วิจย์ณี เสนแดง – ภาพประกอบ

Author

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นและรายละเอียดของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับและใช้เพื่อการพัฒนาการสื่อสารองค์ความรู้ของ SDG Move เท่านั้น
* หมายถึง ข้อมูลที่จำเป็น